HoonSmart.com>>CHAYO ผลงานโค้งแรกกำไรพุ่ง 75.9% แตะ 64.9 ล้านบาท รายได้อยู่ที่ 176.4 ล้านบาท ปีนี้ตั้งเป้าซื้อหนี้ด้อยคุณภาพ 10,000 ล้านบาท มั่นใจรายได้โตไม่ต่ำกว่า 25% ตามแผน จับตาเตรียมประกาศผู้ร่วมทุน CHAYO JV เดือนมิ.ย.นี้
นายสุขสันต์ ยศะสินธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชโย กรุ๊ป หรือ CHAYO เปิดเผยผลประกอบการของบริษัทฯ ในไตรมาส 1/2564 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 64.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 75.95% จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 36.89 ล้านบาท รายได้รวมอยู่ที่ 176.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59.25% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 110.79 ล้านบาท
มาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อแก่สินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ซึ่งอยู่ที่ 162.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 66.65 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงปลายปี 2563 บริษัทได้ซื้อพอร์ตหนี้ด้อยคุณภาพชนิดไม่มีหลักประกันมาบริหารเพิ่มเติมมากขึ้น ส่งผลให้ในไตรมาส 1/2564 บริษัทฯ มียอดจัดเก็บได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 4 ประมาณ 37.50%) และมียอดรายได้จากการขายหนี้แบบมีหลักประกันจำนวน 49.90 ล้านบาท ในขณะที่ไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ไม่มีการจัดเก็บและยอดรายได้จากการขายหนี้ด้อยคุณภาพชนิดมีหลักประกัน
ในไตรมาส 1/2564 บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้น จำนวน 141.72 ล้านบาท คิดเป็น 80.30% ของรายได้รวม จากการที่บริษัทฯ มีรายได้จากเงินให้สินเชื่อแก่สินทรัพย์ด้อยคุณภาพเพิ่มขึ้น
“บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าเจรจาซื้อหนี้ด้อยคุณภาพทั้งที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกันจากสถาบันการเงินเข้ามาบริหารเพิ่มอย่างต่อเนื่องโดย ตั้งเป้าไว้ประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยในด้านเงินทุนบริษัทมีความพร้อมเป็นอย่างยิ่ง โดยบริษัทฯ ได้รับเงินจากการแปลงใบสำคัญแสดงสิทธิกว่า 500 ล้านบาทส่งผลให้ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 บริษัทฯ มีเงินคงเหลือกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารและขยายอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งปัจจุบันมีการเจรจากับทางสถาบันการเงินหลายราย เบื้องต้นคาดว่าภายในช่วงไตรมาส 2/2564 จะได้ข้อสรุปไม่น้อยกว่า 1-2 ดีล และจะมีการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาเพิ่มสูงที่สุดในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งเป็นไปตามซีซันนอลของธุรกิจโดยปกติ และมั่นใจว่าผลดำเนินงานของบริษัทจะยังมีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 25% ตามเป้าหมาย” นายสุขสันต์ กล่าว
สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อภาพเศรษฐกิจโดยรวมอย่างมาก แม้ว่าภาครัฐจะมีการออกมาตรการเข้ามาช่วยเหลือลูกหนี้อย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ดีก็ไม่สามารถช่วยเหลือลูกหนี้ทุกรายได้ โดยคาดว่าหนี้เสียหรือ NPL ในระบบมีแนวโน้มจะขยายตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจแตะที่ระดับกว่า 5.0 – 5.5 แสนล้านบาท โดยคาดว่าสถาบันการเงินจะทยอยขายหนี้ออกมาเพิ่มมากขึ้นในปีนี้
อย่างไรก็ดี จากการบริหารจัดการสินทรัพย์ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ มีการขาย NPA และ NPL อย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้บริษัทมีแผนที่จะขายสินทรัพย์ที่มีหลักประกัน (NPL) และ/หรือ NPA แปลงใหญ่อย่างน้อย 1 แปลง โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3/2564 ของปีนี้ (ทั้งนี้ในไตรมาสที่ 1/2564 บริษัทได้ขายหลักประกัน (NPL) ได้ประมาณ 49.90 ล้านบาท)
ขณะที่ธุรกิจปล่อยสินเชื่อในปี 2564 บริษัทวางเป้ายอดปล่อยสินเชื่อใหม่ไว้ที่ 150 – 200 ล้านบาท จากปีก่อนที่ปล่อยราว 50 – 60 ล้านบาท แต่ด้วยด้วยสภาวะทางเศรษฐกิจที่ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง ทำให้บริษัทยังคงระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อใหม่ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดหนี้สงสัยจะสูญ (NPL) ขณะที่ NPL ปัจจุบันยังคงอยู่ในระดับต่ำมีเพียงไม่กี่แสนบาทเท่านั้น
ส่วน “บริษัทบริหารสินทรัพย์ ชโย เจวี จำกัด” (CHAYO JV) ปัจจุบันบริษัทได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยอยู่ระหว่างการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 55 ล้านบาทเป็น 1,800 ล้านบาทและอยู่ระหว่างเจรจากับนักลงทุนให้มาถือหุ้นร้อยละ 45 โดยบริษัทฯ คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในกลางเดือนมิถุนายน 2564 นี้ โดยจะเน้นการรับซื้อหนี้ที่มีหลักประกันเท่านั้น