IVL ลั่นรายได้ปี 64 ทะลุเป้าที่ตั้งไว้ 12.5-13 พันล้านเหรียญ

HoonSmart.com>> “อินโดรามา เวนเจอร์ส” ลุ้นรายได้ปี 2564 เกินเป้าที่วางไว้ 12.5-13 พันล้านเหรียญสหรัฐ  ขายดี ราคาผลิตภัณฑ์สูง ส่วนราคาน้ำมันดิบเพิ่มหนุนโรงงาน Gas สหรัฐฯ ปริมาณขายที่หายไปจากอากาศหนาวเย็น คาดกลับมาหนุนในช่วงไตรมาส 2-4   โรงงาน Gas Cracker จะกลับมาเดินเครื่องในเดือน มิ.ย.นี้ วางเงินลงทุนปีนี้ 1 พันล้านเหรียญ ซ่อมบำรุง 300 ล้านเหรียญฯ ลงทุนโครงการ Recycling – Project Olympus อีก 600-700 ล้านเหรียญฯ

นายวิกาซ จาลัน รองประธานด้านกลยุทธ์ การวางแผน และนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) เปิดเผยว่า ปี 2564 บริษัทตั้งเป้ารายได้จะเติบโตอยู่ที่ประมาณ 12,500-13,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 25% จากปีก่อนที่ 10,594 ล้านเหรียญสหรัฐ จากทุกธุรกิจของบริษัท มีความต้องของผู้บริโภคมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และราคาผลิตภัณฑ์ปรับตัวดีขึ้นอยู่ในระดับที่สูง

“เป้าหมายรายได้ที่เราวางไว้ที่ 12.5-13 พันล้านเหรียญนั้น คิดบนสมมติฐานราคาน้ำมันดิบที่ 60-65 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งปัจจุบันราคาน้ำมันยืนสูงประมาณ 69 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ทำให้เราคาดว่ารายได้อาจจะเกินเป้าหมายที่วางไว้ได้ ธุรกิจที่สหรัฐ ที่ใช้เชื้อเพลิง Shell Gas ทำให้ผลประกอบการดีขึ้น และมีอความสามารถทำกำไรที่เพิ่มขึ้นด้วย” นายวิกาซ กล่าว

ส่วนธุรกิจ Integrated Oxides and Derivatives ในไตรมาส 1/2564 มีกำไรหลักก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (Core EBITDA) ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 26% มาอยู่ที่ 37 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นอย่างรุนแรง  ปริมาณขายที่หายไปคาดว่าจะกลับเข้ามาเพิ่มในช่วงไตรมาส 2-4 ประกอบกับโรงงาน Gas Cracker จะกลับมาดำเนินการปกติในช่วงเดือน มิ.ย.2564 นี้ด้วย

ขณะที่เงินลงทุนในปี 2564 ตั้งไว้ที่ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ  แบ่งเป็นใช้เพื่อการซ่อมบำรุงประมาณ 300 ล้าเหรียญสหรัฐ และเงินลงทุนอีก 600-700 ล้านเหรียญสหรัฐ จะลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการรีไซเคิล (Recycling) และลงทุนใน Project Olympus ซึ่งจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่ม คาดว่าใช้ระยะเวลาคืนทุน  ใน 2-3 ปี (2565-2566)

นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางธุรกิจและการจัดการความเป็นเลิศด้านต้นทุน หรือ Project Olympus ในไตรมาส 1 สามารถลดต้นทุนจากการดำเนินได้ถึง 67 ล้านเหรียญสหรัฐ จากทั้งหมดในปี 2564 ที่ 287 ล้านเหรียญสหรัฐ อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่จะมี EBITDA เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 2,300-2,400 ล้านเหรียญสหรัฐ