บล.คิงส์ฟอร์ดคาดหุ้นขึ้นทดสอบ 1,585 – 1,590 จุด กำไรบจ.หนุน

HoonSmart.com>> บล.คิงส์ฟอร์ดคาดหุ้นวันนี้ทดสอบ 1,585 – 1,590 จุด แรงหนุนผลประกอบการกลุ่มพลังงาน ปิโตรฯ ออกมาดี

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด มองแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ คาดดัชนี SET ได้แรงหนุนจากรายงานผลประกอบกลุ่มพลังงาน, ปิโตรเคมี ปรับดีขึ้นตามการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก ขณะที่การควบคุมการระบาดมีแนวโน้มดีขึ้นจากความร่วมมือภาคเอกชน ประเมินดัชนี SET มีโอกาสปรับขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,585 – 1,590 จุด มีแนวรับ 1,570 แนะนำซื้อ PTT, PTTEP, PTTGC, IRPC, IVL ปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันดิบ , Cycle Stock

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐ Down Jones -0.48%, S&P500 -0.08%, Nasdaq -0.28% ปรับลดลงเล็กน้อย หลังเฟดมีมติคงดอกเบี้ยที่ 0 – 0.25% และวงเงิน QE ที่ 1.2 แสน ล.ดอลลาร์/เดือน จนกว่าเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวเต็มที่ ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี -0.96% นำโดย Microsoft จากรายงานกำไรขั้นต้นลดลง ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานปรับขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ

ส่วนถ้อยแถลงของประธานาธิบดีไบเดนต่อสภาคองเกรสเช้านี้ จะใช้งบประมาณ 1.8 ลล.ดอลลาร์ ในโครงการ Amarican Families Plan รวมถึงงบก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน 2 ลล.ดอลลาร์ ซึ่งจะช่วยหนุนการจ้างงานสหรัฐ

ประเด็นสำคัญวันนี้ติดตามรายงาน GDP สหรัฐ Q1/64 คาด +6.1% QoQ

ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.02% ได้แรงหนุนจากรายงานกำไรกลุ่มธนาคารดีกว่าคาด โดย Refintiv IBES คาดกำไร บจ.ยุโรป Q1/64 จะเพิ่มขึ้นราว +71.3% จากปีก่อน

บล.คิงส์ฟอร์ด แนะนำหุ้นเด่นวันนี้ ได้แก่ IRPC ซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมาย 4.20 บาท แนวโน้ม 1Q64 คาดผลการดำเนินงานฟื้นตัวเด่น โดยมีกำไรสุทธิที่ประมาณ 5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น QoQ, YoY ปัจจัยหนุนหลักๆ จากบันทึก Stock Gain ขณะที่ผลการดำเนินงานหลัก Market GIM ที่จะเพิ่มขึ้นมาที่ราว US$13/bbl ได้แรงหนุนจาก Spread ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีทั้งสายสไตรีนิกส์ (ABS) และโอเลฟินส์ (PP) รวมถึงกลุ่ม Lube Base แม้จะมีการเลื่อนปิดซ่อมโรงกลั่น ADU1 20 วัน จาก 2Q64 มาเป็น 1Q64 ส่วนแนวโน้มกำไรปกติใน 2Q64 ฟื้นตัวต่อได้ค่าการกลั่นทยอยปรับเพิ่มขึ้น และส่วนต่างราคาปิโตรเคมีที่อยู่สูงในเดือน เม.ย.พร้อมประเด็นพวกจากการเก็งเข้าดัชนี SET50 รอบครึ่งปีหลัง

นอกจากนี้แนะ BCH รอซื้อเมื่ออ่อนตัว ราคาเป้าหมาย 19.50 บาท) ระดับราคาปรับตัวขึ้นรับประเด็นจำนวนผู้ติดเชื้อ Covid-19 สะสมสูง และ การจัดหาวัคซีน แต่ยังคงมี Upside จากราคาเป้าหมายราว 6% เราประเมินกำไรสุทธิงวด 1Q/64 ที่ 305 ลบ. (+17.47% YoY, +9.77% QoQ) รับแรงหนุนจากการตรวจเชื้อ Covid-19 ที่เร่งตัวในเดือน ม.ค. (ณ สิน Q1/64 มีการตรวจเชื้อราว 1.2 แสนเคส)

ขณะที่ปัจจุบันเห็นการเร่งตัวของการตรวจเชื้ออีกครั้งหลังสงกรานต์ นอกจากนี้ยังมี ปัจจัยหนุนทางรายได้จากวัคซีน Covid-19 (ทั้งจากที่รับมากระจายต่อจากทางรัฐฯ และที่มีแผนอาจนำเข้าเอง) และรายได้จาก ASQ/AHQ/Hospitel เบื้องต้น เราคาดกำไรสุทธิ ปี64 และ ปี65 อยู่ที่ 1,308 ล้านบาท ( +6.36%YoY) และ 1,440 ล้านบาท (+10.13% YoY) ตามลำดับ