MFC ชูกองทุนกัญชา MCANN ตอบโจทย์ลงทุน แนวโน้มเติบโตสูง

HoonSmart.com>> บลจ.เอ็มเอฟซี ชี้จังหวะลงทุนกองทุนกัญชา MCANN รับเทรนด์การเติบโตตลาดกัญชา กัญชงทั่วโลกสูง 33% ต่อปีต่อเนื่องถึงปี 68 แนะลงทุนระยะยาว หุ้นธุรกิจกัญชาผันผวนสูง เปิด IPO ถึง 27 เม.ย.นี้ ด้านบจ.ไทยรุกธุรกิจกัญชงคึกคัก แนะศึกษาข้อมูล เน้นเลือกธุรกิจมีโนฮาว โอกาสเพิ่มกำไรได้อย่างมีนัยสำคัญ

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี (MFC) จัดงานสัมมนา “กัญชา โอกาสการลงทุนที่มีอนาคต” แนะนำกองทุนเปิด MFC Global Cannabis Fund (เอ็มเอฟซี โกลบอล แคนนาบิส) หรือ ‘MCANN’ โดยมี รศ.ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี ประธานคณะกรรมการบริษัท ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน ณ โรงแรม Intercontinental, Bangkok ในวันที่ 20 เม.ย.2564 ซึ่งเป็นวันกัญชาโลก หรือ Weed Day

ดร.ชาญวุฒิ รุ่งแสงมนูญ , FRM ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี (MFC) เปิดเผยว่า กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี โกลบอล แคนนาบิส (MCANN) มีนโยบายลงทุนหุ้นกัญชา กัญชงทั่วโลก กองแรกในไทยที่เป็นโอกาสในการลงทุน เพื่อสร้างผลตอบแทนไปกับแนวโน้มการเติบโตของตลาดกัญชา กัญชงทั่วโลก หลังจากหลายประเทศเริ่มทบทวนกฎหมายเกี่ยวกับกัญชาและอนุญาตให้กัญชาถูกกฎหมาย เพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ โดยคาดการณ์แนวโน้มตลาดกัญชา-กัญชง ทั่วโลกจะเติบโต 33% ต่อปีต่อเนื่องจนถึงปี 2025 มีมูลค่ากว่า 1 แสนล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ และปัจจุบันมี 37 ประเทศที่อนุญาตให้มีการใช้กัญชาทางการแพทย์อย่างถูกกฎหมาย ซึ่งจำนวนนี้รวมถึงไทย

นอกจากนี้เชื่อว่ากองทุน MCANN จะตอบโจทย์เทรนด์การเติบโตดังกล่าว เนื่องจากกองทุนมีการลงทุนที่ครอบคลุมทั้งในบริษัทที่ศึกษาวิจัย พัฒนา เพาะปลูก ผลิต ไปจนถึงการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทั่วโลก อย่างบริษัท GW Pharmaceuticals สัญชาติ UK ที่ผลิต และจำหน่ายยาที่สกัดจากกัญชา-กัญชง สำหรับแก้โรคลมชักและยารักษาโรคปลอกประสาทอักเสบ ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) หรือบริษัท Tilray Inc สัญชาติแคนนาดา ซึ่งเพาะปลูกกัญชาทางการแพทย์ที่ได้รับอนุญาตจากองค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) และกำลังจะเป็นบริษัทด้านกัญชา-กัญชงที่ใหญ่ที่สุดในโลกหลังการควบรวมกับบริษัท Aphria Inc อีกทั้งกองทุน MCANN ยังบริหารพอร์ตแบบเชิงรุกและยืดหยุ่น เพื่อให้สัดส่วนการลงทุนสอดคล้องกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง

“สำหรับผู้ที่สนใจลงทุน แนะนำลงทุนระยะยาว เพราะอาจต้องใช้เวลาในการลงทุนระดับหนึ่ง เนื่องจากภาพรวมของหุ้นธุรกิจกัญชาจะมีความผันผวนสูง ขณะเดียวกันการเติบโตของรายได้ก็น่าสนใจ โดยกองทุนจะเน้นลงทุนในผู้นำธุรกิจ ซึ่งหุ้นในพอร์ตน้ำหนักลงทุนอยู่ในประเทศแคนาดา สหรัฐฯ อังกฤษา ซึ่งตลาดพัฒนาแล้วจึงมีความเสี่ยงเชิงการเมืองค่อนข้างน้อย นอกจากนี้กองทุนจะปิดความเสี่ยงเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยน”ดร.ชาญวุฒิ กล่าว

ทั้งนี้ บลจ.เอ็มเอฟซี ได้เปิดตัวกองทุนกัญชากองแรกของประเทศไทย ชื่อ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี โกลบอล แคนนาบิส (MCANN) โดยเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรกวันที่ 19-27 เม.ย.2564 โดยกองทุนจะลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนต่างประเทศและหรือกองทุนรวมอีทีเอฟ (ETF) ในต่างประเทศที่มีนโยบายลงทุนในธุรกิจเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ทางกัญชา (Marijuana) หรือกัญชง (Hemp) ที่ถูกกฎหมาย เน้นลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวกับการวิจัยกัญชาทางการแพทย์ ทั้งด้านพัฒนายา (Pharmaceutical)และเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotech) เช่น Global X Cannabis ETF(POTX) ซึ่งเป็นกองทุน ETF ที่ลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ทางกัญชากัญชง หรือ Amplify Seymour Cannabis ETF (CNBS) ที่เป็นกองทุน Cannabis ETF

กองทุน POTX เน้นการเติบโตและมีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงในระยะยาว ส่วนกองทุน CNBS เพิ่มผลตอบแทนให้กับกองทุนโดยเน้นกระจายลงทุนในหุ้นเติบโตและหุ้นคุณค่าและหรือหุ้นกัญชา เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้กับกองทุน

ด้านน.ส.รินรดา นรากรพิจิตร์ นักวิเคราะห์ฝ่ายตราสารทุนในประเทศ บลจ.เอ็มเอฟซี กล่าวว่า สำหรับตลาดหุ้นไทย ที่ผ่านมาบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งให้ความสนใจในธุรกิจกัญชงค่อนข้างมากตั้งแต่ธุรกิจต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ ซึ่งมีความน่าสนใจทั้งหมด แต่แนะนำให้นักลงทุนติดตามดูว่าบริษัทไหนเมื่อประกาศจะทำธุรกิจแล้ว มีโนฮาวและทำได้จริงหรือไม่ เพื่อลดความเสี่ยง ซึ่งนักลงทุนต้องศึกษาให้ดีเกี่ยวกับหุ้นกัญชงในไทย

“นักลงทุนควรดูว่าบริษัทจะสามารถมีรายได้เพิ่มเติมอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่ บางแห่งอาจเพิ่มกำไรไม่ได้มาก ไม่มีนัยสำคัญ จึงต้องศึกษาข้อมูลให้ดี แต่บางแห่ง เช่น อาจมีที่ดินอยู่แล้ว นำแปลงมาปลูกพืชกัญชงกำไรก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้งต้องดูว่าราคาหุ้นแพงหรือยัง”น.ส.รินรดากล่าว