รมว.สาธารณสุขยันเปิดทางเอกชนนำเข้าวัคซีน ด้าน FETCO จ่อเพิ่มเป้าดัชนีปีนี้เกิน 1,600

HoonSmart.com>> “รมว.สาธารณสุข” คาดกระจายวัคซีนแก่ประชาชนไทยและต่างด้าวได้ มิ.ย.64 นำร่องที่ภูเก็ต-เกาะสมุย ยันไม่ปิดกั้นหากเอกชน  นำเข้าวัคซีนได้   ด้าน “สภาธุรกิจตลาดทุนไทย” คาดภาพกลับเปิดประเทศใกล้ความจริงมากขึ้น เตรียมเพิ่มเป้าดัชนีปี 64 ขึ้น จากเดิมตั้งไว้ 1,600 จุด คาดปี 65 ฟื้นดีกว่า หลังวัคซีนแพร่หลายมากขึ้น

โครงการตลาดทุนพบภาครัฐ ครั้งที่ 1/2564 โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า รัฐบาลเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนสามารถนำเข้าวัคซีนโควิด-19 ได้ ไม่มีการปิดกั้น และช่วยผลัดกันให้ได้ใบอนุญาตนำเข้าด้วย ถ้าหากทางผู้ผลิตวัคซีนต่างๆยินยอมที่จะขายให้ภาคเอกชน ซึ่งทางภาครัฐก็อยากจะส่งเสริมให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วม ในการช่วยกระจายวัคซีนให้ทั่วถึง และรวดเร็วแก่ประชาชนทั้งประเทศ

“เราไม่เคยปิดกั้นโอกาส ถ้าสามารถตกลงกับผู้ผลิตได้ แต่วัคซีนโควิดนั้นต้องได้รับการขึ้นทะเบียนอาหารและยาที่ถูกต้อง และผู้นำเข้าเองก็ต้องได้รับใบอนุญาตจากทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ทางรัฐบาลเองจะช่วยเหลือภาคเอกชนอย่างเต็มที่” นายอนุทินกล่าว

ส่วนการกระจายวัคซีน คาดว่าจะสามารถเริ่มได้ในช่วงเดือน มิ.ย.2564 นี้ ซึ่งนำเข้ามาในเดือนเม.ย.นี้ ประมาณ 2,000,000 โดส จะมุ่งเน้นไปที่บุคลากรทางการแพทย์ และภาคการท่องเที่ยวที่สำคัญของไทย คาดว่าเริ่มกระจายวัคซีนไปยังจังหวัดภูเก็ตก่อน 100,000 โดส ตามด้วยเกาะสมุยอีก 50,000 โดส และจะกระจายให้ครอบคลุมทุกคน ทั้งแรงงานต่างด้าวและประชาชน เชื่อว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญแน่นอน

สำหรับการผ่อนคลายมาตรการต่างๆจะทยอยตามมา หลังจากเริ่มมีการฉีดวัคซีนในวงกว้างมากขึ้น รวมถึงการเปิดระหว่างประเทศที่มีการฉีดวัคซีนแล้ว โดยประเทศไทยได้พูดคุบกับหลายๆประเทศ เชื่อว่าวัคซีนจะเป็นตัวช่วยที่ทำให้นักท่องเที่ยวมีความมั่นใจมากขึ้น อีกทั้งการลดจำนวนการกักตัวให้น้อยลงเหลือ 10 วัน จากเดิม 14 วัน จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่ลดลง

ด้านนายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เปิดเผยว่า หลังจากเห็นแผนการทำงานของภาครัฐ ทั้งการจัดหา การผลิต และการ กระจายวัคซีนโควิด-19 ต่างๆนั้น ทำให้การเปิดประเทศจะเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น การฉีดวัคซีนที่ครอบคลุมและการจับมือระหว่าประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้ว จะเป็นปัจจัยบวกต่อจำนวนนักท่องเที่ยวให้เพิ่มมากขึ้น โดยทางสภาธุรกิจตลาดทุนไทย อาจจะมีการปรับเป้าหมายดัชนีตลาดหุ้นไทยปี 2564 เพิ่มขึ้น จากเดิมตั้งไว้ที่ 1,600 จุด

“ครึ่งหลังของปี 64 นี้ ตลาดหุ้นไทยจะเป็นยังไงก็ต้องรอดูว่าภาครัฐสามารถดำเนินได้ตามแผนหรือไม่  ซึ่งถ้าทำได้จะสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุน และเชื่อว่าในปี 2565 ตลาดหุ้นไทยจะเริ่มน่าสนใจมากขึ้น เนื่องจากประเทศเราพึ่งพาภาคการท่องเที่ยวเป็นหลัก ถ้าวัคซีนสามารถกระจายทั่วถึงและมีสิทธิภาพ ก็ทำให้ตลาดหุ้นไทยมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ส่วน เงินทุนต่างประเทศที่ยังไม่กลับมาก็เพราะเหตุผลนี้ ต้องรอวัคซีนใช้อย่างทั่วถึงในประเทศก่อน” นายไพบูลย์ กล่าว