โดย…..สุนันท์ ศรีจันทรา
การออกใบสำคัญแสดงสิทธิจองซื้อหุ้นสามัญ หรือ วอร์แรนต์ ของบริษัทจดทะเบียน มักจะราบรื่น โดยผู้ถือหุ้นอนุมัติตามที่คณะกรรมการบริษัทฯ เสนอ แต่สำหรับวอร์แรนต์รุ่นที่5ของบริษัท กรีน รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) หรือ GREEN กลับมีปัญหา เพราะผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ไม่อนุมัติ จนเกิดข้อสงสัยว่า เกิดอะไรขึ้นกับบริษัทจดทะเบียนแห่งนี้
คณะกรรมการ GREEN มีมติเมื่อวันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยเพิ่มทุนจำนวน 272.67 ล้านหุ้น เพื่อรองรับ GREEN-W5 ซึ่งจัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิมในสัดส่วน 3 หุ้นเดิมต่อ 1 วอร์แรนต์ฟรี อายุ 4 ปี สัดส่วนการแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ1ต่อ1 ราคาแปลงสภาพ1.25 บาท
วันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้มีการจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น เพื่อขอมติการเพิ่มทุนและออกวอร์แรนต์รุ่นที่5 ซึ่งปรากฏว่า ทั้งวาระการเพิ่มทุน การออกวอร์แรนต์ และการจัดหุ้นเพิ่มทุน ไม่ผ่านการอนุมัติจากผู้ถือหุ้น โดยมีมติไม่เห็นด้วยทั้ง 3 วาระ ด้วย 379.98 ล้านเสียงหรือคิดเป็นร้อยละ 70.51 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดต่อ 157.64 ล้านเสียง หรือ ร้อยละ29.48 ทั้งสามวาระ
แผนการออกวอร์แรนต์รุ่นที่ 5 ของ GREEN ต้องล้มพับไป และแม้จะไม่มีผลกระทบรุนแรงต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ แต่ก็เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นความขัดแย้ง ระหว่างฝ่ายบริหารและผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่
วอร์แรนต์ในตลาดหุ้นไทย ส่วนใหญ่มักถูกใช้เป็นเครื่องมือในการกระตุ้นราคาหุ้น มากกว่าการนำไปใช้เพื่อการวางแผนทางการเงิน และ GREEEN ออกวอร์แรนท์มาแล้วถึง 4 รุ่น ซึ่งลื่นไหลมาตลอด จนรุ่นที่ 5 ที่ถูกผู้ถือหุ้นล้มแผน
นายไต้ ซอง อี ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับสอง ในสัดส่วน 8.98% ของทุนจดทะเบียน ถูกระบุว่า เป็นแกนนำในการล้มมติการเพิ่มทุนและออกวอร์แรนต์ แต่นายไท้จะล้มแผนของฝ่ายบริหารบริษัทไม่ได้ หากผู้ถือหุ้นรายย่อยส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย
การออกวอร์แรนต์ แจกฟรีผู้ถือหุ้นเดิมนั้น ไม่มีผลกระทบใดต่อผู้ถือหุ้นเดิม ไม่ว่าจะเป็นรายย่อยหรือรายใหญ่ เพราะทุกคนได้รับสิทธิโดยเท่าเทียม แต่ผลกระทบจะเกิดจากนักเก็งกำไรที่แห่เข้าไปไล่ซื้อหุ้น โดยหวังได้วอร์แรนต์ หรือนักลงทุนที่แห่เข้าไปเก็งกำไรวอร์แรนต์
แผนการออกวอร์แรนต์จึงไม่น่าจะถูกต่อต้านจากผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ แต่การที่ผู้ถือหุ้น GREEN ลุกฮือต่อต้าน น่าจะมีความขัดแย้งหรือมีไม่พอใจฝ่ายบริหารบริษัทฯ ในประเด็นที่ยังไม่ถูกตีแผ่
หุ้น GREEN ทรุดตัวลงทันทีที่มติการเพิ่มทุนและออกวอร์แรนต์ถูกคว่ำ โดยเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมปิดที่ 1.28 บาท ลดลง 9 สตางค์หรือลดลง 6.57%
หุ้น GREEN เงียบเหงาซบเซามาพักใหญ่แล้ว เพราะผลประกอบการย่ำแย่ ขาดทุนหลายปีติดต่อ ไม่มีค่าพี/อี เรโชที่จะคำนวณ ไม่มีการจ่ายเงินปันผล รายได้แต่ละปีไม่กี่สิบล้านบาท โดยผลประกอบการเริ่มกระเตื้องขึ้นในไตรมาสแรกปีนี้ซึ่งมีกำไรสุทธิ 9.43 ล้านบาท ขณะที่ระยะเดียวกันปีก่อนขาดทุนสุทธิ 12.51 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการจับตาว่า ผลประกอบการจะฟื้นต่อเนื่องหรือไม่
แต่สิ่งที่กำลังเรียกความสนใจจากนักลงทุนคือ เพราะเหตุใดผู้ถือหุ้นจะลุกฮือขึ้นมาต่อต้านฝ่ายบริหารบริษัทฯ โดยล้มแผนเพิ่มทุนและออกวอร์แรนต์ ความขัดแย้งลึกๆ เป็นประเด็นใด และจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ปัญหาความขัดแย้งระหว่างฝ่านบริหารกับผู้ถือหุ้นใหญ่ใหญ่ของ GREEN ถือเป็นปัญหาภายในของบริษัทจดทะเบียนแห่งนี้ นักลงทุนทั่วไปไม่เกี่ยว
และดูผลประกอบการหุ้น GREEN แล้ว นักลงทุนส่วนใหญ่ก็ไม่น่าเข้าไปเกี่ยว เฝ้าดูความเป็นไปอยู่ห่างปลอดภัยกว่า