บลจ.อินโนเทคลุ้นหุ้นไทยไปต่อส่ง “ทริกเกอร์ฟันด์” เป้า 5% ใน 5 เดือน

HoonSmart.com>> บลจ.อินโนเทค เสิร์ฟกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ ลุยเก็บหุ้นพื้นฐานดี กลยุทธ์การลงทุนเชิงรุก เปิดขาย IPO ตั้งแต่ 16–19 มี.ค.นี้

สุรเชษฐ์ ศรีวัฒนกุลวงศ์

นายสุรเชษฐ์ ศรีวัฒนกุลวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อินโนเทค จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ เปิดเสนอขายกองทุนเปิด อินโนเทค ทริกเกอร์ฟันด์ อีพี 4 (I-TEP4) เป็นกองทุนรวมผสม แบบไม่กำหนดสัดส่วนการลงทุนในหุ้น (ลงทุนหุ้นได้ 0 – 100%) มีนโยบายการลงทุนเน้นลงทุนในหุ้นไทยที่จดทะเบียนใน SET/mai ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี ใช้กลยุทธ์การลงทุนเชิงรุก (active fund management) ทั้งการคัดเลือกหุ้นอย่างพิถีพิถัน (stock selection) และการจับจังหวะการลงทุน (market timing) เพื่อให้กองทุนมีผลการดำเนินงานตามเป้าหมาย พร้อมเสนอขาย 16–19 มี.ค.นี้ ลงทุนขั้นต่ำเพียง 100 บาท

ทั้งนี้ หลังจากกองทุนเปิดอินโนเทค ทริกเกอร์ฟันด์ อีพี 3 (I-TEP3) สามารถทำผลตอบแทนได้ตามเป้าหมายที่ 5% ในระยะเวลาเพียง 26 วันทำการ ต่อเนื่องจากกองทุนเปิดอินโนเทค ทริกเกอร์ฟันด์ อีพี 2 (I-TEP2) และกองทุนเปิดอินโนเทค ทริกเกอร์ฟันด์ อีพี 1 (I-TEP1) ซึ่งทำผลตอบแทนได้ตามเป้าหมายที่ 5% ในเวลาเพียง 26 วันทำการ และ 10 วันทำการ ขณะที่มองว่าตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ จึงออกและเสนอขายกองทุน I-TEP4

สำหรับภาพรวมการลงทุนในหุ้นไทยในระยะยาวยังคงสดใสอยู่ ทั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยในปีนี้และปีหน้า การแจกจ่ายวัคซีนที่เพิ่มขึ้น สภาพคล่องในตลาดการเงินที่ยังคงมีอยู่สูง และการดำเนินนโยบายการเงินการคลังอย่างผ่อนคลายของสหรัฐฯ แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยจะเผชิญแรงขายทำกำไรบ้างจากความกังวลต่อการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (US Bond Yield) ก็ตาม

“หากตลาดหุ้นไทยมีการปรับฐานในไตรมาสที่ 2 นี้ ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีในการสะสมหุ้นเพื่อขายทำกำไร เนื่องจากทางอินโนเทคมองว่าในระยะยาว ตลาดหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยงจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกันกับการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐได้”นายสุรเชษฐ์ กล่าว

ทั้งนี้ บลจ.อินโนเทค ยังได้ยกเว้นการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมแรกเข้า (Front-ended fee) ให้แก่ลูกค้าที่จองซื้อกองทุนในช่วงเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) ด้วย ซึ่งเป็นข้อเสนอพิเศษเช่นเดียวกับกองทุน I-TEP1, I-TEP2 และ I-TEP3 ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม เป้าหมายผลตอบแทนจากการลงทุน 5% ใน 5 เดือนนั้น ไม่ใช่การรับประกันว่าผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนในระยะเวลาที่กำหนด ตัวเลข 5% ดังกล่าวเป็นเพียงเป้าหมายอันเป็นเหตุให้เลิกกองทุนเท่านั้น ผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนในช่วง 5 เดือนได้ ดังนั้นหากเกิดเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนและสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมากได้ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนการตัดสินใจลงทุน