ดาวโจนส์ปิดบวก 188 จุด รับไบเดนลงนามมาตรกระตุ้นศก.-ข้อมูลแรงงานสดใส

HoonSmart.com>> ดาวโจนส์ปิดบวก 188 จุด ขานรับ “โจ ไบเดน” ลงนามมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้านตัวเลขข้อมูลสวัสดิการว่างงานลดลงสะท้อนภาพรวมแนวโน้มสดใส ด้านตลาดหุ้นยุโรปบวก ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 11 มีนาคม 2564 ปิดที่ 32,485.59 จุด เพิ่มขึ้น 188.57 จุด หรือ 0.58% อ่อนตัวจากที่พุ่งไปกว่า 300 จุดระหว่างการซื้อขาย จากการกลับเข้ามาซื้อกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนขานรับการลงนามในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโจ ไบเดน

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,939.34 จุด เพิ่มขึ้น 40.53 จุด, +1.04% หลังจากปรับตัวขึ้นไปแตะระดับ all-time high ระหว่างวันซึ่งเป็นสถิติใหม่นับตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,398.67 จุด เพิ่มขึ้น 329.84 จุด, +2.52%

หุ้นเทสลาเพิ่มขึ้น 4% หุ้นเฟซบุ๊กเพิ่มขึ้น 3.39% หุ้นแอปเปิล เพิ่มขึ้น 1.65% หุ้นแอมะซอน เพิ่มขึ้น 1.83%

ประธานาธิบดีไบเดนได้ลงนามในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งส่งผลให้เป็นกฎหมายบังคับใช้ในช่วงบ่ายวานนี้ โดยครอบคลุมการแจกเงินเยียวยาผลกระทบโควิดให้กับชาวอเมริกันคนละ 1,400 ดอลลาร์ การจัดสรรเงินเกือบ 20 พันล้านดอลลาร์ไว้สำหรับการจัดหาวัคซีน และจัดสรร 350 พันล้านดอลลาร์ช่วยเหลือหน่วยงานรัฐที่ส่วนกลางและท้องถิ่น

ทำเนียบขาวคาดว่า จะเริ่มการส่งเช็คเยียวยาเข้าบัญชีธนาคารในสุดสัปดาห์นี้

นักวิเคราะห์จาก Horizon Investments ระบุว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจกลบความกังวลการระบาดของไวรัสโควิด ขณะที่อัตราดอกเบี้ยซึ่งอยู่ในระดับที่เกือบจะติดลบเป็นประวัติการณ์เป็นแรงหนุนราคาสินทรัพย์

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอยู่ที่ 1.52%

การเปิดเศรษฐกิจและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เร่งให้มีการเข้าซื้อหุ้นกลุ่มวัฏจักรมากขึ้น

นักลงทุนยังขานรับข้อมูลการยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานที่ต่ำกว่าคาด โดยกระทรวงแรงงานรายงาน การยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้วลดลงมาที่ระดับ 712,000 ราย ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีก่อน และต่ำกว่า 725,000 รายที่นักวิเคราะห์คาด

นักวิเคราะห์จาก E-Trade Financial ระบุว่า ข้อมูลการรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก และสัญญานที่ชัดเจนว่าการใช้ชีวิตก่อนการระบาดกำลังจะกลับมา สะท้อนภาพรวมแนวโน้มที่สดใส แม้ในหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดกังวลเงินเฟ้อ

หุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิปปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากสมาคมการค้าเซมิคอนดัคเตอร์ของจีนรวมตัวเป็นกลุ่มเครือข่ายเพื่อประสานงานกับคู่ค้าสหรัฐฯเพื่อลดความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและจีน โดยหุ้นNvidia และหุ้น Broadcom ต่างเพิ่มขึ้น 4% หุ้น Xilinx 6.6% และหุ้น AMD เพิ่มขึ้น 5.3%

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยกลุ่มเทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้น 2.3% หลังจากธนาคารกลางสหภาพยุโรป(European Central Bank) ยืนยันว่าจะเพิ่มการซื้อพันธบัตร ท่ามกลางต้นทุนการกู้ยืมที่ปรับตัวขึ้นทั่วทั้งทวีป โดยคาดว่าจะเพิ่มการซื้อพันธบัตรในระดับที่มีความสำคัญในไตรมาสหน้า

ECB ยังคงวงเงินโครงการซื้อสินทรัพย์( Pandemic Emergency Purchase Programme) ไว้ที่ 1.85 ล้านล้านยูโร ซึ่งมีกำหนดสิ้นสุดเดือนมีนาคม 2022 แต่เนื่องจากการซื้อพันธบัตรในไตรมาสแรกต่ำกว่าปกติอย่างมาก จึงจะเพิ่มการซื้อพันธบัตรในอีก2-3 เดือนข้างหน้า

นักวิเคราะห์จาก Aberdeen Standard Investments ระบุว่า สิ่งที่ ECB แถลงตรงกับสิ่งที่นักลงทุนต้องการจะเห็นและน่าจะทำให้ผู้กำหนดนโยบายหลายประเทศพอใจด้วย

ดัชนี Stoxx 600 ปิดที่ 424.17 จุด เพิ่มขึ้น 2.06 จุด, +0.49%

ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,736.96 จุด เพิ่มขึ้น 11.36 จุด, +0.17%

ดัชนี CAC 40 ปิดที่ 6,033.76 จุด เพิ่มขึ้น 43.21 จุด, +0.72%

ดัชนี DAX ปิดที่ 14,569.39 จุด เพิ่มขึ้น 29.14 จุด, +0.20%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 1.58 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 66.02 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 1.73 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 69.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล