MFC แนะกระจายลงทุน “หุ้นวัฎจักร” ช่วยลดความผันผวนพอร์ต

วงจรการลงทุนในช่วงนี้อยู่ในช่วง Bear Steepening จากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น และแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยที่จะปรับตัวสูงขึ้นจากเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ทำให้ในช่วงนี้หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์มากที่สุด คือหุ้นกลุ่มวัฏจักร ดังนั้นการกระจายการลงทุนในหุ้นกลุ่มวัฏจักรบางส่วนจะช่วยลดความผันผวนของพอร์ต

ปัจจัย

– ตามวงจรการลงทุน (Investment Cycle) ช่วงเกิดการแพร่ระบาดของโควิด19 เป็นช่วงของ Bull Flattening คือเป็นช่วงที่ อัตราดอกเบี้ยลดลง และกำไรต่อหุ้นลดลง สินทรัพย์ที่ได้ประโยชน์จากการลงทุนในช่วงนั้น คือ ตราสารหนี้ระยะยาว และหุ้นกู้กลุ่มระดับลงทุน (Investment Grade) รวมถึงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

– ช่วงถัดมาเป็นช่วง Bull Steepening อัตราดอกเบี้ยยังคงลดลงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนกำไรต่อหุ้นเริ่มเพิ่มขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ สินทรัพย์ที่ได้ประโยชน์ คือ หุ้นกู้กลุ่มระดับต่ำกว่าการลงทุน (Non-investment Grade) และหุ้นขนาดเล็ก

– ปัจจุบันเราอยู่ในช่วง Bear Steepening ซึ่งเป็นช่วงที่อัตราดอกเบี้ยเริ่มปรับตัวสูงขึ้น จากเงินเฟ้อที่มีการปรับเพิ่มขึ้น จากที่มีการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงก่อนหน้า และกำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยในช่วงนี้สินทรัพย์ที่ได้ประโยชน์ คือ สินค้าโภคภัณฑ์ ได้แก่ ทองคำ น้ำมัน สินค้าเกษตร เป็นต้น และหุ้นวัฏจักร ได้แก่ หุ้นกลุ่มพลังงาน หุ้นกลุ่มธนาคาร และหุ้นกลุ่มเหล็ก ซึ่งจะฟื้นตัวตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่เริ่มดีขึ้น

– หากเปรียบเทียบดัชนี S&P500 ที่เป็นหุ้นกลุ่มวัฏจักรกับดัชนี S&P500 ที่เป็นหุ้นปลอดภัย ตามกราฟล่าง หุ้นกลุ่มวัฏจักรมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องสอดคล้องกับการฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ดีขึ้น ดังนั้นการลงทุนในช่วงนี้ควรแบ่งสัดส่วนการลงทุนไปยังหุ้นกลุ่มวัฏจักรเพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน

– อย่างไรก็ตามเรามองว่าหุ้นเติบโต อย่างหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี มีศักยภาพในการเติบโตได้ดีกว่า ซึ่งสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนในระยะยาวได้สูงกว่า แต่ในระยะสั้นอาจมีการปรับฐาน จากแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

กองทุนแนะนำ

M-EM: การพักฐานรอบนี้ทำให้ราคาหุ้นลงมาอยู่ในระดับที่น่าสนใจลงทุนระยะยาว

การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในปี 2564 ส่งผลบวกต่อหุ้นในตลาดเกิดใหม่เพราะมีการเติบโตของกำไรที่มากกว่าในขณะที่ Valuation ถูกกว่าตลาดหุ้นที่พัฒนาแล้ว

MCHINA: การพักฐานรอบนี้ทำให้ราคาหุ้นลงมาอยู่ในระดับที่น่าสนใจลงทุนระยะยาว

GDP จีนฟื้นตัวได้รวดเร็ว ได้ประโยชน์ในระยะสั้นจาก Fund Flow และในระยะยาวจากกลุ่มชนชั้นกลางที่เติบโตอย่างรวดเร็ว เศรษฐกิจจีนแข็งแกร่งเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกและยังมี Valuation ที่ค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ

M-MIDSMALL

กองทุนหุ้นไทยที่มีผลตอบแทนโดดเด่นชนะดัชนี SET TRI ในปีที่ผ่านมา การเติบโตของหุ้นขนาดกลางและเล็กทั่วโลกผนวกกับการเลือกหุ้นที่ยอดเยี่ยม ทำให้กองทุนมีโอกาสสร้างผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีตลาดหุ้นไทย

M-S50/M-MEGA

ตลาดหุ้นไทยมีหุ้นกลุ่ม Cyclical อยู่ประมาณ 35% ซึ่งจะได้รับประโยชน์จาก Sector Rotation จากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีมาสู่หุ้นวัฏจักร กองทุน M-S50 เคยได้รับรางวัล Best Thailand Equity Large-Cap Fund ซึ่งเน้นบริหารงานแบบ Passive และกองทุน M-MEGA บริหารงานแบบ Active โดยใช้กระบวนการเลือกหุ้นเชิงปริมาณ (Quant) เพื่อคัดสรรหุ้นที่คาดว่าจะสามารถชนะ Benchmark ได้ แนะนำซื้อลงทุน

MEURO

ตลาดหุ้นยุโรปยังเป็นตลาดที่ Laggard อยู่และมีมูลค่า (Valuation) ที่ค่อนข้างถูก ตลาดหุ้นยุโรปยังมีศักยภาพในการเติบโตที่ดี โดยคาดว่าในปี 2565, Earning Growth จะเติบโตมากที่สุดในโลก รวมถึงยุโรปสามารถควบคุมโควิด19 ได้ดีขึ้น ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นยุโรป แนะนำซื้อลงทุนระยะยาว