๐ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลง หลัง Bond yield สหรัฐฯ อายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมาขึ้นแตะระดับ 1.5% นับเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ. 2020 หลังจากคำสัมภาษณ์ของนาย Jerome Powell มีมุมมองบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและยังไม่มีท่าทีที่จะเข้าซื้อพันธบัตรเพิ่มเติม ขณะที่การฉีดวัคซีนในแต่ละประเทศมีความคืบหน้ามากขึ้น ซึ่งล่าสุดสหรัฐฯ ฉีดวัคซีนถึง 23.76% ของจำนวนประชากรทั้งหมด และยุโรปอยู่ที่ 7.94% อีกทั้งแผนกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ ซึ่งกำลังอยู่ขั้นตอนการรอลงนามในช่วงกลางเดือนมี.ค.นี้ ถ้ามาตรการกระตุ้นชุดใหญ่ได้รับการอนุมัติ อาจผลักดันให้ Bond yield มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นแรงอีกและเป็นความเสี่ยงที่อาจทำให้ตลาดหุ้นปรับฐานอีกครั้ง
๐ ตัวเลขดัชนี Composite PMI เดือน ก.พ. ยูโรโซนและญี่ปุ่นปรับตัวดีขึ้นแต่ยังคงอยู่ในแดนหดตัว โดยดัชนีรวมของยูโรโซนปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.0 จุด เป็นระดับ 48.8 จุด เป็นผลมาจากดัชนีภาคบริการฟื้นตัวขึ้น 0.3 จุด และดัชนีรวมของญี่ปุ่นฟื้นตัวขึ้นถึง 1.1 จุด เป็นระดับ 48.2 จุด สะท้อนสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ยังอ่อนแอจากสถานการณ์ COVID-19 ขณะที่ดัชนีรวมของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงมาถึง 2.8 จุด เป็นระดับ 55.9 จุด จากภาคบริการที่หดตัวลงเนื่องจากปัญหาขาดแคลนอุปทานในบางกลุ่มสินค้า เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์ เป็นต้น ขณะเดียวกันดัชนีรวม Caixin ปรับตัวลดลง 0.5 จุด เป็นระดับ 51.7 จุด จากทั้งภาคการผลิตและภาคบริการที่ปรับตัวลดลงจากภาคการผลิตและภาคบริการที่ปรับตัวลดลง
๐ คณะกรรมการ ECB พร้อมแทรกแซงและปรับเปลี่ยนการเข้าซื้อสินทรัพย์ เนื่องจาก Bond Yield ในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของกลุ่มที่ค่อนข้างล่าช้ากว่าประเทศหลักอื่นๆ โดย นาย Fabio Panetta หนึ่งในคณะกรรมการอาวุโสของ ECB กล่าวว่า ECB กำลังประเมินสภาวะตลาด อีกทั้งพร้อมที่แทรกแซงและปรับเปลี่ยนการเข้าซื้อสินทรัพย์
๐ ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติกรอบวงเงินเพื่อจัดหาวัคซีนต้านไวรัส COVID-19 จาก Astra Zeneca โดยในวันที่ 2 มี.ค. มีมติรับทราบและอนุมัติการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2021 สำหรับการซื้อวัคซีนเพิ่มเติมจากบริษัท Astra Zeneca จำนวน 35 ล้านโดส วงเงิน 6,387 ล้านบาท เพื่อให้ประชากรไทยได้รับการฉีดวัคซีนอย่างน้อยร้อยละ 50 ภายในปี 2021
๐ จับตาผลการประชุม FED ในวันที่ 16-17 มี.ค. คาดจะยังคงดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายอย่างมากอยู่ โดยสิ่งที่ต้องติดตามในการประชุมรอบนี้ คือประมาณการเศรษฐกิจรอบใหม่และการคาดการณ์แนวโน้มของดอกเบี้ย (Dot plot) ด้วย โดยหาก FED มีการส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้นจากเดิมที่จะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับไปจนถึง 2566 อาจกดดันให้ Bond yield ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีก
กลยุทธ์การลงทุน
ตลาดหุ้นไทย : แนะนำ “คงน้ำหนักการลงทุน”
ตลาดหุ้นเกาหลี : แนะนำ “คงน้ำหนักการลงทุน”
ตลาดหุ้นจีน : แนะนำ “คงน้ำหนักการลงทุน” ในหุ้นจีน A-Shares และ H-Sares
ตลาดหุ้นยุโรป : แนะนำ “คงน้ำหนักการลงทุน”
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ : ปรับคำแนะนำจาก "เพิ่มน้ำหนักการลงทุน" เป็น "คงน้ำหนักการลงทุน"
ตลาดหุ้นญี่ปุ่น : แนะนำ “คงน้ำหนักการลงทุน”
ตราสารหนี้ไทย : แนะนำ "เพิ่มการลงทุน"
ในตลาดเงิน
ตราสารหนี้ต่างประเทศ : แนะนำลงทุน SCBUSHY, SCBFIN
ทองคำ : แนะนำ “คงน้ำหนักการลงทุน”
น้ำมัน : แนะนำ “คงน้ำหนักการลงทุน”
อสังหาฯ-โครงสร้างพื้นฐาน : แนะนำ “คงน้ำหนักการลงทุน”