DOD ผนึก JKN พัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์กัญชง จ่อคลอด 10 โปรดักส์ปีนี้

HoonSmart.com>> “ดีโอดี ไบโอเทค” เนื้อหอม หลัง “สยาม เฮอเบล เทค” บริษัทลูก ได้ไลเซ่นส์นำเข้าเมล็ดพันธุ์กัญชงจากต่างประเทศ ชูเป็นบริษัทบริษัทมหาชนรายเดียวในกลุ่มแรกได้ใบอนุญาต พร้อมประกาศผนึกกำลัง MOU ระหว่าง DOD กับ JKN ภายใต้การเป็น Strategic Partner เพื่อร่วมพัฒนาสูตรผลิตผลิตภัณฑ์จากกัญชง รวม 10 ผลิตภัณฑ์ แย้มเตรียม MOU อีกหลายบริษัท

นายธนิน ศรีเศรษฐี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค (DOD) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สำเร็จ (Finished product) กับ บริษัท เจเคเอ็น เฮลท์ แอนด์ บิวตี้ จำกัด ภายใต้บริษัทในเครือ JKN เพื่อพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีสารสกัดจากกัญชงร่วมกัน โดยความร่วมมือในครั้งนี้ DOD จะวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ จำนวน 10 ผลิตภัณฑ์ ให้บริษัท เจเคเอ็น เฮลท์ แอนด์ บิวตี้ จำกัด ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวสามารถเริ่มทยอยส่งมอบทันภายในปีนี้ พร้อมทั้งเชื่อว่าผลิตภัณฑ์นี้จะตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้เป็นอย่างดี

สำหรับผลิตภัณฑ์ประกอบด้วย 1) Dietary supplement product for joint health : ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารช่วยดูแลข้อเข่าลดการอักเสบบริเวณข้อเข่า 2) dietary supplement product for sleep and relax : ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารช่วยในการนอนหลับและคลายเครียด 3) Dietary supplement product for cognitive brain : ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อบำรุงสมอง ลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์ 4) Hemp Seed oil Protein : โปรตีนจากเมล็ดกัญชง ให้กรดอะมิโนที่ครบถ้วนเหมาะการควบคุมน้ำหนัก 5) Jelly for brain : ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบำรุงสมองในรูปแบบเจลลี่

6) Oil for holistic health : ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในรูปแบบซอฟเจล ช่วยลดโอกาสในการเกิด ความดัน ไขมัน เบาหวาน 7) Probiotic for adult plus omega oil : ผลิตภัณฑ์โพรไปโอติค เพื่อสร้างสมดุลระบบลำไส้ และระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยต้านอนุมูลอิสระ 8) Hemp Instant Tea : ชาสำเร็จรูปจากกัญชง ช่วยผ่อนคลาย 9) Instant coffee plus omega oil : กาแฟสำเร็จรูปเพิ่มโอเมก้า ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรัง และ 10) Oil shot for sport performance : ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับนักกีฬาลดการอักเสบของกล้ามเนื้อ

สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ เชื่อว่าเป็นการต่อยอดระหว่างสองบริษัท ภายใต้การเป็น Strategic Partner ร่วมกัน ทั้งคิดค้นพัฒนาสูตร การสกัดเพื่อแปรรูปผลิตภัณฑ์ รวมถึงการจำหน่าย โดยเชื่อว่าด้วยจุดเด่นความแข็งแกร่งของทั้ง 2 บริษัทจะช่วยผลักดันให้มูลค่าการตลาดทั้งในส่วนของ ผู้ผลิต ผู้จำหน่าย และผู้บริโภค เติบโตไปพร้อมๆกัน

“ที่ผ่านมา DOD มีการศึกษาและวิจัยเรื่องกัญชง ร่วมกับมหาวิทยาลัยแม่โจ้ มาโดยตลอด ประกอบกับบริษัทฯมีทีมวิจัยในการวางแผนคิดค้นสูตร เพื่อนำสารสกัดจากกัญชง มาพัฒนาและต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งวันนี้ก็เป็นบทพิสูจน์ที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพความพร้อมของ DOD ในการร่วมพัฒนาสูตร เพื่อการผลิตผลิตภัณฑ์ให้กับทางบริษัท เจเคเอ็น เฮลท์ แอนด์ บิวตี้ จำกัด ดังนั้นเชื่อว่าความร่วมมือระหว่าง 2 บริษัทมหาชนในครั้งนี้ จะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ DOD และ JKN ในอนาคตได้อย่างมีนัยสำคัญ” นายธนิน กล่าว

ด้านน.ส.สุวารินทร์ ก้อนทอง ในฐานะกรรมการ บริษัท สยาม เฮอเบล เทค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย DOD กล่าวว่า บริษัท สยาม เฮอเบล เทค จำกัด ได้รับใบอนุญาตนำเข้าเมล็ดพันธุ์กัญชงจากต่างประเทศ จากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)แล้ว ซึ่งถือว่าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในกลุ่มแรกเพียงรายเดียว ที่ได้รับใบอนุญาตนำเข้าเมล็ดพันธุ์ดังกล่าว ส่งผลให้มีกลุ่มบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และผู้ประกอบการทั่วไปกว่า 20 ราย เข้ามาเจรจาเพื่อหารือในการพัฒนาและคิดค้นสูตรผลิตภัณฑ์สารสกัดจากกัญชงภายใต้การลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการพัฒนาและคิดค้นสูตรผลิตภัณฑ์สารสกัดจากกัญชง ทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และ กลุ่มเครื่องสำอาง รวมถึงมีการติดต่อในการขอซื้อเมล็ดพันธุ์กัญชงไปปลูก เพื่อนำสารสกัดไปประกอบการในเชิงพาณิชย์

ทั้งนี้ จากการตื่นตัวรับกระแสของการปลดล็อก “กัญชง” ให้เป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่มองถึงโอกาสของธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ โดยเปิดโอกาสให้กลุ่มบริษัทผู้ประกอบการสามารถนำสารสกัดจากกัญชงไปเป็นวัตถุดิบและสารตั้งต้น เพื่อผลิตสินค้าประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร, เครื่องดื่ม ยา เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์อีกหลากหลายชนิด ซึ่ง DOD เป็นหนึ่งในผู้นำในการผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในรูปแบบต่างๆ ทั้งความงามและสุขภาพ และมีความพร้อมด้านโรงสกัด รวมทั้งห้องปฏิบัติการ (LAB) ซึ่งผ่านการรับรองตามมาตรฐาน ISO/IEC 17025 : 2017 รวมถึงยังได้การรับรองมาตรฐาน ISO22000:2018 (ระบบการจัดการความปลอดภัยของอาหาร) และ ISO 14001 : 2015 (ระบบการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม)

นอกจากนี้มีทีมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (R&D) ที่คอยค้นคว้าวิจัยนวัตกรรมและพัฒนาสารสกัดพืชสมุนไพร รวมถึงการพัฒนากระบวนการสกัด ออกแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใหม่ๆ ดังนั้นจากจุดแข็งดังกล่าวจึงทำให้สามารถต่อยอดไลน์สกัดกัญชงเข้ากับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารได้อย่างลงตัว