บลจ.ไทยพาณิชย์มองบวกหุ้นไทยครึ่งปีหลังแนะทยอยซื้อ

HoonSmart.com>>บลจ.ไทยพาณิชย์ มองบวกหุ้นไทยครึ่งปีหลัง แรงหนุนทยอยฉีดวัคซีน เศรษฐกิจโลกฟื้น แนะจังหวะสะสมเข้าพอร์ต พร้อมปันผล 2 กองหุ้นไทย SCBSE และ SCBSE-SSF 

นายณรงค์ศักดิ์  ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยยังมีแนวโน้มเติบโตจากความคืบหน้าของการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคระบาด Covid-19 โดยประเทศไทยเป็นประเทศที่พึ่งพาการท่องเที่ยวจากต่างชาติและการส่งออก ดังนั้น เมื่อมีความคืบหน้าของการฉีดวัคซีนให้กับคนไทยและทั่วโลก ประเทศไทยจึงจะได้รับผลบวกในระดับที่สูงกว่าประเทศเพื่อนบ้านและส่งผลให้หุ้นไทยกลับมาเติบโตสูงได้อีกครั้ง ถึงแม้ว่า ผลกระทบของการระบาดระลอกใหม่ของ Covid-19 จะส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศบางส่วนชะลอเพื่อป้องกันการติดเชื้อของโรคระบาดเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าจะส่งผลในระยะสั้นเพียง 1-3 เดือน

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยสนับสนุนอื่นที่ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง เช่น สงครามการค้าที่มีแนวโน้มลดความรุนแรงลงซึ่งส่งผลบวกต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก มาตรการเพิ่มสภาพคล่องของธนาคารกลางทั่วโลกที่จะส่งผลบวกให้กับสินทรัพย์เสี่ยงโดยเฉพาะหุ้นให้สามารถปรับตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี ยังควรต้องจับตาประสิทธิภาพของวัคซีนในการป้องกันโรคระบาดว่ามีประสิทธิภาพเพียงใด รวมถึงการชุมนุมทางการเมืองภายในประเทศ และการปรับลดมาตรการเพิ่มสภาพคล่องที่คาดว่าจะเริ่มในช่วงปลายปี 2564 หรือปี 2565 เป็นต้นไป

“แนวโน้มในปี 2564 คาดว่าภาพเศรษฐกิจไทยจะมีพัฒนาการเชิงบวกเมื่อเทียบกับปีก่อน จากทั้งภาคการลงทุนที่เร่งตัวขึ้น รวมถึงนโยบายทางการคลังเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพิ่มเติม ประกอบกับการคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อเนื่อง อีกทั้งคู่ค้าต่างประเทศที่มีการฟื้นตัวหนุนยอดการส่งออกเร่งตัวขึ้นควบคู่กันไป จึงคาดการณ์ว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียนไทยจะขยายตัวขึ้น +35%YoY ในปี 2021 และ+17% YoY ในปี 2022 โดยประเมินดัชนีเป้าหมายของ SET ปี 2564 ที่ระดับ 1,620 จุด อิง forward PE2022 ที่18 เท่า เทียบกับการเติบโตเฉลี่ยของกำไร 2 ปีข้างหน้ามากกว่า 20% ซึ่งเป็น ระดับ Valuation ที่น่าสนใจในการลงทุนเพิ่ม ฉะนั้นการที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงในระยะสั้นถือเป็นจังหวะในการสะสมหุ้นไทย เพื่อรอจังหวะเศรษฐกิจไทยที่เริ่มฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง” นายณรงค์ศักดิ์ กล่าว

นอกจากนี้บริษัทฯ ได้จ่ายปันผลกองทุนหุ้นไทยพร้อมกันจำนวน  2 กองทุน สำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 ส.ค. 2563 – วันที่ 31 ม.ค. 2564 โดยจ่ายให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 19 ก.พ. 2564 นี้ รวมมูลค่าเงินปันผลกว่า 108 ล้านบาท ประกอบด้วยกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ซีเล็คท์ อิควิตี้ ฟันด์ (ชนิดจ่ายเงินปันผล) (SCBSE) ในอัตรา 0.2500 บาทต่อหน่วย และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ซีเล็คท์ อิควิตี้ ฟันด์ (ชนิดเพื่อการออม) (SCBSE-SSF) ในอัตรา 0.1000 บาทต่อหน่วย

ทั้งนี้ กองทุน SCBSE จัดเป็นกองทุน 4 ดาว ประเภท Thailand Fund Equity Large-Cap ของมอร์นิ่งสตาร์ (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ม.ค. 2564) และมีผลดำเนินงานที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2554 มีการจ่ายปันผลแล้ว 18 ครั้ง รวม 7.7100 บาทต่อหน่วย โดยทั้งสองกองทุนมีกลยุทธ์การลงทุนด้วยวิธี Active Approach ด้วยการคัดเลือกลงทุนในบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่น่าสนใจลงทุนมากที่สุดและสอดคล้องกับแนวโน้มการลงทุนในขณะนั้น ซึ่งจะใส่น้ำหนักการลงทุนมากน้อยตามความน่าสนใจของหุ้นนั้น และกองทุนจะลงทุนในหุ้นไม่เกิน 30 ตัว จึงเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงในระดับสูงได้