ADVANC ยันปีนี้รายได้โต1-3% จับมือจีนผลิตเครื่องหนุน 5G

HoonSmart.com>>”แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส”บุกบริการ 5G  คาดผู้ใช้งานเพิ่มแตะ 1 ล้านรายสิ้นปีนี้  รุกอินเทอร์เน็ตบ้าน เตรียมจับมือพันธมิตรจีน ผู้ผลิตอุปกรณ์รองรับ 5G ราคาเพียง 3,000-4,000 บาท ขยายธุรกิจประกัน หวังใช้ฐานลูกค้าในมือ 41 ล้านราย  ส่วน”อินทัชฯ”  โตตาม ADVANC -THCOM คาดกำไรปกติดีขึ้น เตรียมงบ 2 พันล้านบาท ใช้ลงทุน InVent มีดีลในมือกว่า 20 ราย หวัง 5 ปีข้างหน้า NAV แตะ 3.2 แสนล้านบาท  

นายวัชรพงศ์ ลีโทชวลิต ผู้จัดการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้หลักจากการให้บริการ ในปี 2564 จะเติบโตหลักเดียวในระดับต่ำ หรือ 1-3% เช่นเดียวกันกับกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย และค่าเสื่อม (EBITDA) ที่จะเติบโต 1-3% มาจากจำนวนผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้นทั้ง 4G และ5G รวมถึงบริษัทยังคงมั่นเน้นการลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง ส่วนบลงทุนวางไว้ที่ 25,000-30,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาและขยาย โครงข่าย 4G-5G และอินเทอร์เน็ตบ้าน คาดว่าจะมียอดผู้ใช้งานอินเทอร์บ้านเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 1.6 ล้านราย จากเดิม 1.3 ล้านราย

บริษัทมีแผนจะร่วมกับพันธมิตรประเทศจีน ที่เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์เครื่องลูกข่าย ที่รองรับการใช้งานคลื่นความถี่ 5G  เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มากยิ่งขึ้น  ราคาเริ่มต้นของอุปกรณ์ประมาณ 3,000-4,000 บาท  จากปกติราคาเริ่มต้นประมาณ 7,500 บาท ส่วนกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง บริษัทจะเสนอขายโปรโมชั่นต่างๆ และส่งเสริมการขายให้เพิ่มยิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถเข้าถึงการใช้ 5G ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และได้ประสบการณ์ใหม่ๆ โดยตั้งเป้ายอดผู้ใช้งานแพคเกจ 5G  จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1 ล้านรายสิ้นปี จากปัจจุบันประมาณ 240,000 ราย

“ในภาวะเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว เราพยายามที่จะรักษาความสามารถในการแข่งขันให้ดีอยู่ โดยการนำเสนอโปรโมชั่นต่างๆ ให้ตอบสนองลูกค้า ซึ่งในเดือนนี้จะมี 5G ครบทุกระดับคลื่นความถี่ โดยจะได้รับใบอนุญาตตคลื่น 26 GHz  การให้บริการ 5G จะเป็นกลยุทธ์หลัก และจะช่วยให้เรามีประสิทธิภาพในการแข่งขัน อีกทั้งปัจจุบันได้ขยายโครงข่ายครบ 77 จังหวัดแล้ว และจะเน้นย้ำเพิ่มอีก 25 จังหวัด คาดว่าจะสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดได้มากกว่าผู้ให้บริการรายอื่นๆ” นายวัชรพงศ์ กล่าว

นอกจากนี้ธุรกิจประกันบริษัทฯมีแผนที่จะออกรูปแบบกรมธรรม์ให้มีความหลากหลาย เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค โดยจะใช้ฐานข้อมูลลูกค้าปัจจุบันที่มีประมาณ 41 ล้านราย ให้เป็นประโยชน์ในการสร้างการเติบโตในอนาคต

ด้านน.ส.ทมยันตี คงพูลศิลป์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานบริหารการลงทุน และการลงทุนสัมพันธ์ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) เปิดเผยว่า  รายได้ในปี 2564 คาดว่าจะเติบโตตามบริษัท ADVANC ที่คาดว่ารายได้หลักจากการให้บริการจะโต 1-3% ส่วนบริษัท ไทยคม (THCOM) รายได้จะมีทิศทางที่ดีขึ้น จากลูกค้าที่เข้ามาใช้ดาวเทียมเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีกำไรปกติ จากปัจจุบันที่มียังขาดทุนอยู่

นอกจากนี้บริษัทมีแผนจะเข้าลงทุนผ่านโครงการอินเว้นท์ (InVent) ในธุรกิจ Start-Up ที่มีการเติบโต และส่งเสริมธุรกิจหลัก  โดยปัจจุบันมีเจรจาอยู่กว่า 20 ราย สามารถสรุปผลการเจรจาได้แล้ว 1 ราย ซึ่งการลงทุนบริษัทจะใช้กระแสเงินสดที่มีอยู่ประมาณ 2,000 ล้านบาท ปัจจุบันมีพอร์ตอินเว้นท์มูลค่า 1,230 ล้านบาท

“เรายังมองหาธุรกิจใหม่ๆ ที่จะเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจหลัก และช่วยสร้างการเติบโตยิ่งขึ้นในอนาคต มองหาธุรกิจที่มีมูลค่า ประเภท Telecom ,Media และ Degital จะเน้นการลงทุนสตาร์อัพ   เกี่ยวกับ 5G มากขึ้น โดยเฉพาะใน Health Tech ที่เป็นโอกาสใหม่ๆ โดยตั้งไว้ว่าใน 5 ปีข้างหน้า มูลค่าทรัพย์สินค้าสุทธิ (NAV) จะแตะระดับ 3.2 แสนล้านบาท  “น.ส.ทมยันตีกล่าว

ส่วนกลุ่มบริษัท Venture Capital(VC) มีหลายบริษัทที่สนใจจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แต่บริษัทยังไม่พิจารณานำเข้าจดทะเบียนใน 1-2 ปีนี้ (2564-2565) ซึ่งถ้ามีความคืบหน้าอย่างไรจะแจ้งให้ทราบ

ในปี 2563 บริษัทฯลงทุนในบริษัทสตาร์อัพภายใต้โครงการอินเว้นท์ เพิ่มขึ้น 5 บริษัท ได้แก่ บริษัท ดาต้าฟาร์ม   บริษัท แอซินัน พีทีอี ลิมิตเต็ด บริษัท พาโรนีน บริษัท ชมชอบกรุ๊ป และบริษัท สวิฟท์ ไดนามิกส์   ขณะที่ขายหุ้นที่ลงทุนไปในบริษัท โซเชี่ยล เนชั่น และบริษัท วงใน มีเดีย  ทำให้มูลค่าพอร์ตการลงทุนภายใต้โครงการอินเว้นท์ ณ สิ้นปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 975 ล้านบาท จำนวน 18 บริษัท ผลตอบแทนการลงทุน 16%