FTREIT รับมือโควิดมุ่งรักษาผู้เช่าเดิม เจาะกลุ่มใหม่ “เวชภัณฑ์ ยา-อีคอมเมิร์ซ”

HoonSmart.com>> กองทรัสต์ FTREIT รับมือโควิด-19 รอบใหม่ มุ่งรักษาจำนวนผู้เช่าปัจจุบัน เพิ่มผู้เช่าใหม่ “กลุ่มอุตสาหกรรมเวชภัณฑ์และยา อีคอมเมิร์ซ” ได้รับอานิสงส์การแพร่ระบาด ด้านอัตราผู้เช่างวดปีสิ้นสุด 30 ก.ย.63 อยู่ระดับ 83.6% เพิ่ม 1% เผยผลประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนผ่านออนไลน์ ไฟเขียวเพิ่มทุน-กู้เงิน ลงทุนในทรัพย์สินเพิ่ม สร้างความแข็งแกร่ง

นายพีระพัฒน์ ศรีสุคนธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล รีท แมนเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (FTREIT) เปิดเผยว่า ปี 2564 สถานการณ์ทางเศรษฐกิจยังมีความท้าทาย FTREIT ยังคงวางแผนการบริหารจัดการเชิงรุก เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 รอบใหม่ในประเทศ โดยมุ่งรักษาจำนวนผู้เช่าปัจจุบันของกองทรัสต์ และเพิ่มจำนวนผู้เช่าใหม่ที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับอานิสงส์จากสถานการณ์โควิด-19 และอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโตที่ดีเข้ามาในพอร์ตโฟลิโอของกองทรัสต์ อาทิ อุตสาหกรรมเวชภัณฑ์และยา และอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซ เป็นต้นตลอดจนเดินหน้าปรับปรุงและพัฒนาทรัพย์สินให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้เช่ามากขึ้น

ในส่วนของการบริหารเงินทุน ตามที่ประชุมผู้ถือหน่วยทรัสต์ได้มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป ในจำนวนไม่เกิน 846,716,114 หน่วย และอนุมัติวงเงินการกู้ยืมในจำนวนรวมกันไม่เกิน 10,000 ล้านบาท จะเป็นส่วนสำคัญในการใช้เป็นเงินทุนในการสนับสนุนการเข้าลงทุนในทรัพย์สินที่มีคุณภาพ และ มีศักยภาพในการเติบโตบนทำเลยุทธศาสตร์ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้แก่กองทรัสต์ต่อไป

“ปีที่ผ่านมาถือเป็นที่ท้าทายอย่างมากสำหรับกองทรัสต์ เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ได้ส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศตลอดจนผู้เช่าของกองทรัสต์บางส่วน ทางผู้จัดการกองทรัสต์ได้บริหารจัดการเชิงกลยุทธ์อย่างเต็มความสามารถในระยะผ่านมา เพื่อลดผลกระทบต่อผลประกอบการและสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องให้แก่กองทรัสต์ ส่งผลให้ปีงบประมาณ 2563 FTREIT มีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง และสามารถจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนได้เพิ่มขึ้นเป็น 0.6690 บาทต่อหน่วยทรัสต์”นายพีระพัฒน์ กล่าว

ทั้งนี้ FTREIT ได้จัดประชุมสามัญผู้ถือหน่วยทรัสต์ ประจำปี 2564 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยรายงานผลประกอบการของปีงบประมาณ 2563 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 ก.ย.2563 กองทรัสต์มีรายได้รวมทั้งสิ้น 3,048.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.6% และรายได้จากการลงทุนสุทธิจำนวน 2,099.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.0% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยสามารถจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนได้เพิ่มขึ้นเป็น 0.6690 บาทต่อหน่วยทรัสต์

นอกจากนี้ที่ประชุมผู้ถือหน่วยทรัสต์ FTREIT อนุมัติการเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) สำหรับการออกหน่วยทรัสต์เพิ่มเติม ในจำนวนไม่เกิน 846,716,114 หน่วย พร้อมทั้งอนุมัติวงเงินการกู้ยืมไม่เกิน 10,000 ล้านบาท เงินทุนจากการเพิ่มทุนและการกู้ยืมมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้สำหรับการลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมหรือ เพื่อชำระหนี้การกู้ยืมที่จะถึงกำหนดชำระในอนาคต

นายพีระพัฒน์ กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์ที่ท้าทายจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการในภาคการผลิต และ การขนส่งซึ่งบางส่วนเป็นผู้เช่าของกองทรัสต์ ดังนั้น กองทรัสต์จึงได้ให้การช่วยเหลือโดยการพิจารณาลดค่าเช่าเป็นรายบริษัทตามผลกระทบที่ได้รับ เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้เช่าในช่วงสถานการณ์ดังกล่าวและ เป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีอย่างยั่งยืนกับผู้เช่าในระยะยาว

แต่อย่างไรก็ตาม จากการบริหารเชิงรุกของผู้จัดการกองทรัสต์จึงทำให้ในภาพรวมแล้ว ผลการดำเนินงานทางด้านการบริหารสินทรัพย์ของในปีงบประมาณ 2563 นั้นมีการเติบโตขึ้นโดยอัตราการเช่าเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ระดับ 83.6% ซึ่งมีการเติบโตเฉลี่ยประมาณ 1.0% เมื่อเทียบกับปีก่อน

ทั้งนี้ในไตรมาสที่ 4 ของงบประมาณ 2563 ผู้จัดการกองทรัสต์ได้เห็นถึงสถานการณ์ที่เริ่มมีการปรับตัวดีขึ้น อันเนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสมีความรุนแรงลดลง ซึ่งสร้างความมั่นใจให้กับผู้เช่าในการที่จะทำการต่อสัญญาเช่า และ เช่าทรัพย์สินกับกองทรัสต์เพิ่มเติม

สำหรับด้านการลงทุนของกองทรัสต์ ในปีที่ผ่านมา กองทรัสต์ได้เข้าลงทุนในทรัพย์สินคุณภาพสูงของกลุ่มบริษัทเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย และ กลุ่มบุคคลอื่นรวมทั้งสิ้น 60 ยูนิต คิดเป็นมูลค่าการเข้าลงทุนประมาณ 4,908.0 ล้านบาท ไม่รวม ภาษี ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่าย ทำให้พอร์ตโฟลิโอของกองทรัสต์ FTREIT มีพื้นที่ให้เช่ารวมเพิ่มขึ้น 192,537 ตารางเมตร ครอบคลุมพื้น 8 ทำเลยุทธศาสตร์ ที่ตั้งอยู่ใน 4 จังหวัด

ทั้งนี้ จากการเข้าลงทุนดังกล่าวทำให้กองทรัสต์มีสินทรัพย์ศักยภาพสูงเพื่อการอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ภายใต้การบริหารจัดการรวมทั้งสิ้น 614 ยูนิต หรือ คิดเป็นพื้นที่เช่า 1,871,012 ตารางเมตร และทำให้ FTREIT ยังครองตำแหน่งกองทรัสต์เพื่ออุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยมูลค่าสินทรัพย์รวมกว่า 41,143.6 ล้านบาท ณ วันที่ 30 ก.ย.2563