HoonSmart.com>> “โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์” เตรียมเปิดขายหุ้นกู้อายุ 3 ปี ผลตอบแทน 4.50% ต่อปี ระหว่าง 22-24 ก.พ.นี้ เรทติ้งหุ้นกู้ BBB- นำเงินชำระคืนหุ้นกู้ครบกำหนดเดือนก.พ.64 กางแผนธุรกิจปี 64 เปิด 11 โครงการใหม่ มูลค่ากว่า 4.5 หมืนล้านบาท ปูทางผู้นำตลาดอสังหาฯ ตั้งเป้า 3 ปีติด 1 ใน 5 ด้านผลงานปี 63 คาดรายได้ทะลุ 1 หมื่นล้านบาทตามเป้า
นายอรรถวิทย์ เฉลิมทรัพยากร กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการเงิน บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ (NOBLE) เปิดเผยว่า NOBLE ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลเพื่อขออนุญาตและเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ออกและเสนอขายหุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป และผู้ลงทุนสถาบัน อายุ 3 ปี ผลตอบแทน 4.50% ต่อปี คาดเปิดจำหน่ายระหว่างวันที่ 22-24 ก.พ.นี้ จองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณทุก ๆ 100,000 บาท โดยกำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน
สำหรับวัตถุประสงค์ในการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ เพื่อชำระคืนหุ้นกู้เดิมที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนก.พ.2564 ทั้งนี้ บริษัทได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2563 ที่ระดับ “BBB” แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” และหุ้นกู้ของบริษัทได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ “BBB-” จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2563 ที่ผ่านมา
นายอรรถวิทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจะสามารถรับรู้รายได้ทั้งปี 2563 ได้มากกว่า 10,000 ล้านบาทตามที่ตั้งเป้าไว้ ซึ่งผลประกอบการของบริษัทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2563 บริษัทฯ มีรายได้รวม 7,412 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,238 ล้านบาท และเงินสด 2,653 ล้านบาท ทั้งนี้อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของทุนอยู่ที่ 1.28 เท่า ลดลงจากสิ้นปี 2562 ที่อยู่ที่ 1.58 เท่า โดยบริษัทได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยจากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยจากผลกระทบของโควิด-19 เนื่องจากโครงการที่อยู่อาศัยของบริษัทเป็นที่ยอมรับในตลาด
ขณะที่ความแข็งแกร่งของ NOBLE ยังสะท้อนได้จากอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทที่ระดับ “BBB” แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” ซึ่งตอกย้ำสถานะของบริษัทในการเป็นที่ยอมรับว่าเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย โดยสิ้นไตรมาส 3 ปี 2563 บริษัทฯ มียอดขายรอโอน (Backlog) ในมือมูลค่ารวมประมาณ 15,000 ล้านบาท จะทยอยรับรู้อย่างต่อเนื่องใน 2-3 ปีข้างหน้า และมีสินค้าพร้อมขายรวมถึงสินค้าที่อยู่ระหว่ากงการก่อสร้าง (Inventory) มูลค่ารวมประมาณ 14,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นสินค้าพร้อมโอนประมาณ 4,500 ล้านบาท จะช่วยสนับสนุนการรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง
ในปี 2564 บริษัทฯ มีแผนจะเปิดตัวอีก 11 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 45,100 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวสูง 25,000 ล้านบาท และแนวราบ 20,100 ล้านบาท เพื่อปูทางให้ขึ้นเป็นผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของเมืองไทย โดยตั้งเป้าติด 1 ใน 5 หรือ TOP 5 ภายใน 3 ปีข้างหน้า และตั้งเป้ารายได้ปี 2564 ประมาณ 11,000 ล้านบาท และยอดขายประมาณ 16,000 ล้านบาท มั่นใจฐานลูกค้าทั้งคนไทยและต่างชาติมีกำลังซื้อสูง และได้พันธมิตรรายใหม่คือบริษัท ยู ซิตี้ (U) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) โดยมีแผนเปิดตัว 5 โครงการร่วมกันในปี 2564 บนทำเลถนนสุขสวัสดิ์ ถนนคูคต ถนนพระราม 9 และถนนเอกมัย-รามอินทรา
สำหรับผู้ที่สนใจหุ้นกู้จองซื้อผ่านธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที และบริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้ เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ในครั้งนี้