ดาวโจนส์ปิดบวกกว่า 160 จุด ภาคผลิตดีกว่าคาด จับตาเลือกตั้งส.ว.รัฐจอร์เจีย

HoonSmart.com>>ดาวโจนส์ปิดบวกกว่า 160 จุด ภาคการผลิตดีกว่าคาด จับตาเลือกตั้งวุฒิสมาชิกในรัฐจอร์เจีย ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ร่วง ราคาน้ำดิบพุ่งเกือบ 5%

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 5 มกราคม 2564 ปิดที่ 30,391.60 จุด เพิ่มขึ้น 167.71 จุด หรือ 0.55% นักลงทุนกลับเข้าไปซื้อจากที่ปิดลบในการซื้อขายแรกของปีขณะที่จับตาผลการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกในจอร์เจีย รวมทั้งยังมีมุมมองทางบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,726.86 จุด เพิ่มขึ้น 26.21 จุด, +0.71%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,818.96 จุด เพิ่มขึ้น 120.51 จุด, +0.95%

หุ้นโบอิ้งปรับตัวขึ้นมากสุดโดยเพิ่มขึ้น 4.4% กลุ่มพลังงานเพิ่มขึ้น 4.5% เป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดรายวันหลังจากซาอุดิอาระเบียตกลงที่จะลดกำลังการผลิตในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม หุ้นเชฟรอนเพิ่มขึ้น 2.7%

ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลภาคการผลิตที่ดีกว่าคาด โดยสถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) เผย ดัชนีภาคการผลิตเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 60.7 สูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2018 จากระดับ 57.5 ในเดือนพฤศจิกายนและสูงกว่า 57 ที่นักวิเคราะห์คาด
นอกจากนี้ทองแดงซึ่งจัดเป็นดัชนีชี้นำเศรษฐกิจโลก เพิ่มขึ้นกว่า 2% และแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ8 ปี

นักลงทุนยังเกาะติดการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกในจอร์เจีย ที่จะบ่งชี้ว่าพรรครีพับลิกันจะยังคงคุมวุฒิสภาได้หรือไม่ เพราะหากพรรเดโมแครตได้ครองเสียงข้ามมากในสภา ก็จะมีการปรับอัตราภาษีขึ้นและใช้นโยบายเชิงรุกที่จะมีผลกระทบตลาด แม้จะมีผลดีต่อการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในวงเงินที่มากขึ้นและออกได้เร็วขึ้น

อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังกังวลต่อสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด เพราะจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นและมีผู้ติดเชื้อไวรัสกลายพันธ์ยืนยันรายแรกในนิวยอร์ก

หุ้นไมครอน เทคโนโลยี ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 4.33% หลังซิตี้กรุ๊ปปรับคำแนะนำการลงทุนเป็น buy

หุ้นบริษัทสื่อสารรายใหญ่ของจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กได้ยกเลิกแผนการถอดถอนหุ้นทั้ง 3 บริษัทออกจากตลาด โดยหุ้นไชน่าเทเลคอมเพิ่มขึ้น 8.8% หุ้นไชน่าโมบายล์เพิ่มขึ้น 9.3% หุ้นไชน่ายูนิคอม 11.8% เพิ่มขึ้น

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง ท่ามกลางการซื้อขายผันผวน โดยกลุ่มสาธาณณูปโภคลดลง 1.3%, เพราะนักลงทุนยังกังวลต่อสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาในยุโรป ความเร็วในการฉีดวัคซีนให้ประชาชนและการใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศของอังกฤษ

ขณะเดียวเยอรมนีได้ขยายการใช้มาตการล็อกดาวน์ไปจนถึงสิ้นเดือนมกราคม เริ่มตั้วแต่วันจันทร์หน้า

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 400.94 จุด ลดลง 0.75 จุด, -0.19%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,612.25 จุด เพิ่มขึ้น 40.37 จุด, +0.61%
ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,564.60 จุด ลดลง 24.36 จุด, -0.44%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,651.22 จุด ลดลง 75.52 จุด, -0.55%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 2.31 ดอลลาร์ หรือ 4.9% ปิดที่ 49.93ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 2.51 ดอลลาร์ หรือ 4.9% ปิดที่ 53.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล