“ธอส.” สร้างปรากฎการณ์ใหม่ ปล่อยสินเชื่อทะลุ 1 แสนล้านบาทในช่วง 6 เดือน พุ่งขึ้น 53% เพิ่มโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อยมีบ้าน ยกระดับการให้บริการสู่ Digital เต็มรูปแบบ
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2561 ว่า ปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 105,429 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 53.67% คิดเป็น 85,263 บัญชี โดยเป็นวงเงินกู้ไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง จำนวน 51,482 ราย สะท้อนบทบาท ธอส. ในการสนับสนุนภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของประเทศให้ขยายตัวอย่างแข็งแรง สนองนโยบายรัฐบาลและแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่ต้องการให้คนไทยทุกคนมีที่อยู่อาศัยและมีคุณภาพชีวิตที่ดี ทำให้มั่นใจว่าธนาคารจะสามารถปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้าหมาย 189,000 ล้านบาทได้อย่างแน่นอน
“นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้เกิน 1 แสนล้านบาท ภายในระยะเวลาเพียง 6 เดือน ซึ่งเป็นผลมาจากสภาวะเศรษฐกิจขยายตัวดีขึ้น รวมถึงการจัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าทุกระดับรายได้” นายฉัตรชัยกล่าว
ณ สิ้นไตรมาสที่ 2/2561 ธนาคารมียอดสินเชื่อคงค้างรวมทั้งสิ้น 1,070,698 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.62% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2560 มีสินทรัพย์รวม 1,137,871 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.10% เงินฝากรวม 920,248 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.25% มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จำนวน 47,208 ล้านบาท คิดเป็น 4.41% ของยอดสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้น 0.20% จาก ณ สิ้นปี 2560 ซึ่ง NPL อยู่ที่ 4.21% ของสินเชื่อรวม และมีกำไรสุทธิ 6,439 ล้านบาท ขณะที่อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) ยังอยู่ที่ระดับแข็งแกร่งมากที่ 14.53% ซึ่งสูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำ 8.50% ที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย
ธนาคารมีผลิตภัณฑ์สินเชื่อกลุ่ม Social Solution หรือกลุ่มผู้มีรายได้น้อย อาทิ โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ สำหรับกลุ่มผู้ที่ได้รับสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผู้มีรายได้ ไม่เกิน 25,000 บาทต่อเดือน บุคลากรภาครัฐ และประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มียอดปล่อยสินเชื่อรวมจำนวน 22,150 ล้านบาท โครงการบ้าน ธอส.เพื่อสานรัก ปี 2561 ให้กู้ต่อรายไม่เกิน 3 ล้านบาท ปล่อยได้จำนวน 8,270 ล้านบาท ส่วนผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Business Solution หรือสำหรับกลุ่มผู้ที่มีรายได้ปานกลางขึ้นไป อาทิ สินเชื่อบ้านมั่งมีศรีสุข สินเชื่อ For Home และสินเชื่อบ้าน Home for All มียอดปล่อยสินเชื่อรวมกันกว่า 36,000 ล้านบาท
ส่วนแนวทางการดำเนินงานในครึ่งปีหลังนายฉัตรชัยกล่าวว่า ธนาคารพร้อมร่วมมือพันธมิตรสนับสนุนสินเชื่อสำหรับผู้มีรายได้น้อยให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน ช่วยให้ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ขยายตัวอย่างแข็งแรงต่อเนื่องตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ถือเป็นภารกิจหลักที่ ธอส. ต้องดำเนินการสนับสนุนให้คนไทยมีบ้านโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ 3 กลุ่มหลัก ได้แก่กลุ่มผู้มีรายได้น้อย/ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มที่เริ่มครอบครัว และกลุ่มผู้สูงอายุ
นอกจากนี้ธนาคารได้จัดทำ เครื่องรับเงินฝากประชารัฐ : Mobile Deposit Machine เป็นเครื่องรับฝากเงินให้บริการนอกสถานที่แก่ลูกค้ากลุ่มผู้มีรายได้น้อยตามชุมชนต่างๆ เพื่อความรวดเร็ว มั่นใจ ปลอดภัย สร้างวินัยการเงิน และเสริมความเข้มแข็งเพื่อการเข้าถึงแหล่งสินเชื่อเพื่อการมีบ้านในอนาคต โดยจะเริ่มให้บริการจำนวน 200 เครื่อง ภายในเดือนก.ค.นี้
นายฉัตรชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า อีกหนึ่งนโยบายที่ ธอส.ให้ความสำคัญกับการยกระดับการให้บริการตามแผน Transformation to Digital Service เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เป็นตัวขับเคลื่อน นำ Digital Technology มาปรับใช้ทุกส่วนของธุรกิจ ยกระดับการทำงานภายในองค์กร สร้างนวัตกรรมการเงิน และช่องทางการให้บริการดิจิทัล ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้าในยุค 4.0 เพื่อให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมการเงินแบบดิจิทัลที่เข้าถึงง่าย สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ในทุกที่ทุกเวลา
ปัจจุบัน ธอส.ได้จัดทำโครงการ Payment Gateway พัฒนาช่องทางการชำระเงินกู้ เพื่อแก้ปัญหาลูกค้าไม่สะดวก รอคิวนานในช่วงสิ้นเดือน นับเป็นโครงการสำคัญตามแผนยุทธศาสตร์ ประกอบด้วย เครื่องรับชำระหนี้เงินกู้อิเล็กทรอนิกส์ : LRM ลูกค้าชำระเงินสดไม่ต้องรอคิวนาน เครื่องชำระเงินกู้ไร้เงินสด : QR Non Cash Payment ตอบรับสังคมไร้เงินสด Mobile Application : GHB ALL เป็นแอปพลิเคชันของ ธอส.ที่รวมทุกบริการของ ธอส.ไว้ในมือคุณ ทั้งนี้ธนาคารตั้งเป้าหมายว่าภายในสิ้นปี 2561 จำนวนธุรกรรมชำระหนี้เงินกู้ผ่าน Payment Gateway ทั้ง 3 ช่องทาง จะไม่ต่ำกว่า 40% ของจำนวนธุรกรรมที่มาชำระเงินกู้ที่เคาน์เตอร์ของธนาคารทั้งหมด