BGRIM จัดทัพใหม่ โตยั่งยืน เพิ่ม 3,000 MW ปี64

HoonSmart.com>>”บี.กริม เพาเวอร์”ปรับโครงสร้าง เพิ่มบอร์ดบริหาร ตั้ง “ฮาราลด์ ลิงค์” เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารแทน ส่วน” ปรียนาถ สุนทรวาทะ “ขยับขึ้นเป็นรองประธานกรรมการ และกรรมการบริหาร มุ่งธุรกิจต่างประเทศ-ขยายกิจการ เป้าเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้าต่างประเทศอีกกว่า 3,000  MW ในปี 64  พัฒนาธุรกิจนำเข้าก๊าซ LNG ให้สำเร็จ วิ่งเข้าเป้าใหญ่ 7,200 MW ภายในปี 68  โค้งสุดท้ายของปีนี้ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในกัมพูชา 39 เมกะวัตต์ เปิด COD  

บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทฯ (บอร์ด)มีมติเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างการบริหาร โดยอนุมัติการจัดตั้งคณะกรรมการบริหาร เพื่อรองรับการขยายธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและเติบโตอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้บอร์ดได้อนุมัติการแต่งตั้งดร.ฮาราลด์ ลิงค์ คุณปรียนาถ สุนทรวาทะ ให้ดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการ บริษัทและปรับเปลี่ยนบทบาทจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มาเป็นกรรมการบริหาร มีหน้าที่บริหารจัดการธุรกิจต่างประเทศและมุ่งเน้นการขยายกิจการซึ่งมีเป้าหมายลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าในต่างประเทศอีกกว่า 3,000 เมกะวัตต์ในปี 2564 และพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าและลำเลียงก๊าซ LNG ให้ประสบความสำเร็จต่อไป

ขณะเดียวกันบอร์ดได้อนุมัติแต่งตั้ง ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ให้ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แทน โดยดร.ฮาราลด์ ลิงค์ เป็นผู้ที่มีความรู้ความชำนาญ และมีประสบการณ์ทำงานในธุรกิจต่างๆ รวมถึงธุรกิจพลังงานมายาวนานกว่า 40 ปี โดยเป็นผู้ก่อตั้งและเป็นผู้บริหารระดับสูงสุดของ บี.กริม เพาเวอร์มาตั้งแต่เริ่มต้น

นอกจากนี้ บริษัทมีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจโดยยึดหลักธรรมมาภิบาล มุ่งเน้นการขยายธุรกิจอย่างมั่นคงและยั่งยืน  ปัจจุบัน คณะกรรมการบริษัทมีสัดส่วนกรรมการอิสระถึง 66.6% และบอร์ดได้อนุมัติแต่งตั้ง คุณหญิงสุชาดา กีระนันทน์ ให้ดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการอิสระ เพื่อส่งเสริมการดำเนินธุรกิจตามหลักกำกับดูแลกิจการที่ดีให้เป็นไปตามหลักสากล

บริษัทมีเป้าหมายการขยายกำลังการผลิตไปสู่ 7,200 เมกะวัตต์ภายในปี 2568 จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตจากโครงการที่เปิดดำเนินการแล้วและอยู่ระหว่างพัฒนา 3,682 เมกะวัตต์ จากการขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง อาทิ เวียดนาม สปป.ลาว โอมาน ฟิลิปปินส์ และล่าสุดโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์กำลังผลิตติดตั้ง 39 เมกะวัตต์ภายใต้บริษัท Ray Power ในกัมพูชาได้ผ่านการทดสอบความสมบูรณ์ของการเชื่อมต่อระบบเพื่อจำหน่ายไฟฟ้าเรียบร้อยแล้วเตรียมเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD)ภายในเดือนธ.ค.ตามแผนแม้ว่าจะมีเหตุการณ์โควิด 19 และอุทกภัยก็ตาม ซึ่งจะถือเป็นการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แห่งเดียวของกัมพูชาในปีนี้”