HoonSmart.com>>หุ้นบวกต่อ 14 จุด ต่างชาติซื้อหนักกว่า 3,000 ล้านบาท พลังงาน-แบงก์เด่น นักลงทุนพุ่งเป้าหุ้นที่ได้รับการปรับเพิ่มเป้าหมายราคา แรงซื้อเข้า”ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น” นักวิเคราะห์มองบวกร่วมทุนธนาคารออมสิน บล.โนมูระ พัฒนสิน เพิ่มราคาเป้าหมาย เป็น 66 จาก 64.50 บาท เมย์แบงก์-หยวนต้าชวนซื้อ ส่วน HANA พาชมโรงงานอยุธยา เพิ่มกำลังการผลิต โนมูระฯเพิ่มกำไรราคาเป็น 43 บาท สวนทาง ฟินันเซียไซรัส หั่นราคาเหลือ 46 บาท เจอบาทแข็ง
ตลาดวันที่ 25 พ.ย. เปิดบวกตามตลาดต่างประเทศ แต่เจอแรงขายระหว่างวันกดดัชนีติดลบ สุดท้ายดัชนีปิดที่ 1,415.72 จุด เพิ่มขึ้น 14.09 จุดหรือ+1.01% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 117,120.20 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อเจ้าเดียวกว่า 3,744.68 ล้านบาท ส่วน สถาบัน พอร์ตบล. และนักลงทุนทั่วไปขายกลุ่มละกว่า 1,000 ล้านบาท
หุ้นผันผวนสูง ภาคเช้าบวกกว่า 26.73 จุด แต่ระหว่างวันดัชนีติดลบ 9.21 จุดทรุดลงไปต่ำสุดที่ 1,392.42 จุดหุ้นเด่นยังคงเป็นกลุ่มใหญ่ ทั้งพลังงานและธนาคารพาณิชย์ รวมถึงแรงซื้อหุ้นที่ได้รับการปรับเป้าหมายของกำไรและราคาหุ้น เช่น บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD) มีการประชุมกับนักวิเคราะห์ บล.โนมูระ พัฒนสิน ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 66 บาทจาก 64.50 บาท และปรับกำไรสุทธิปี 2563-2565 ขึ้นปีละ 2-5% เพราะกำไรสุทธิในช่วง 1-2 ปีข้างหน้าเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก และมีช่องทางการปล่อยสินเชื่อผ่าน บริษัทเงินทุน ศรีสวัสดิ์ (BFIT) และบริษัทร่วมลงทุนระหว่างธนาคารออมสินและเงินสดทันใจ (FM)
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง แนะนำ “ซื้อ” SAWAD ราคาเป้าหมาย 65 บาท โดยยังคงประมาณการผลประกอบการจะเติบโต 12-13% ในปี 2563-2564 ส่วนบล.หยวนต้า ก็แนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมาย 63.50 บาท
บล.ทิสโก้ แนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมาย 53 บาท/หุ้น SAWAD จะได้ปัจจัยบวกจากการเข้าถึงฐานลูกค้าของออมสิน ส่วนพอร์ตสินเชื่อของธุรกิจร่วมทุนอยู่ที่ 6 พันล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นรถจักรยานยนต์ และมีแผนจะเพิ่มพอร์ตเป็น 2 หมื่นล้านบาทในปี 2564 ในขณะที่ SAWAD คาดลูกค้าใหม่ 1 ล้านราย
ส่วนบริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส (HANA) นักวิเคราะห์ได้ประชุมร่วมกับผู้บริหารและเยี่ยมชมโรงงานเซมิคอนดักเตอร์ที่จังหวัดอยุธยา บล.โนมูระ พัฒนสิน มีมุมมองเชิงบวกและปรับประมาณการ ราคาเป้าหมายขึ้นมาที่ 43 บาท แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร”
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ปรับลดราคาเป้าหมาย HANA ลงเล็กน้อยเหลือ 46 บาท จากเดิมให้ไว้ 48 บาท โดยค่าเงินบาทที่แข็งค่าทุก 1 บาท จะกระทบกำไรราว 5% และกระทบราคาเป้าหมาย 2 บาท หลังจากปรับสมุมติฐานค่าเงินบาทเป็น 30.50 บาท จากเดิมที่ 31.50 บาทต่อดอลลาร์ และคาดว่ารายได้สกุลเงินบาทในปีหน้าจะโต 7% คาดอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มเป็น 13.7% จาก11.4% ในปีนี้ แต่ต่ำกว่าอดีตที่เคยทำได้ระดับ14-15% จึงปรับลดประมาณการกำไรปกติหน้าลง 4% เป็น 2,166 ล้านบาท แต่ก็ยังเติบโตจากปีนี้ 22.3% ถือว่าฟื้นตัวกลับมาสู่ระดับที่ดีอีกครั้ง
” กำไรของฮานาฯผ่านจุดต่ำสุดแล้วในไตรมาส 3/63 และอยู่ระหว่างการขยายกำลังการผลิต IC ที่อยุธยา เพิ่มขึ้น 20% ถือเป็นโรงงานที่ใหญ่ สร้างรายได้ให้ประมาณ 33% รองรับคำสั่งซื้อที่เร่งตัวขึ้นตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 เป็นต้นไป จนใช้กำลังการผลิตเกือบเต็มคือ มากกว่า 90%”บล.ฟินันเซียไซรัสระบุ