STEC กำไร 235 ลบ. ดีกว่าคาด จ่อบุ๊คขายหมอชิตแลนด์ Q4/63 กว่า 100-130 ลบ.

HoonSmart.com>> ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งฯ ไตรมาส 3/63 กำไรสุทธิ 235 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% จากไตรมาสก่อนหน้า บล.หยวนต้า ชี้ดีกว่าตลาดคาด มาร์จิ้นเพิ่มขึ้น งวดไตรมาส 4/63 จ่อบุ๊คกำไรขายหมอชิตแลนด์ 100-130 ล้านบาท รับรู้รายได้ต่อเนื่องจากงานในมือ รถไฟฟ้าสายสีส้ม -ชมพู-เหลือง แนะ เก็งกำไร เป้า 22 บาท

บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2563 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.2563 กำไรสุทธิ 234.51 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.15 บาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 272.15 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.18 บาท

งวด 9 เดือนปี 2563 กำไรสุทธิ 624.79 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.41 บาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 883.31 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.58 บาท

บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) แนะนำ TRADING หุ้น STEC คาดผลกระทบต่อกำไรจากมาร์จิ้นที่มีแรงกดดันโครงการรัฐสภา จะยังกระทบผลประกอบการไตรมาส 4/63-1/64 อย่างไรก็ดีคาดผลประกอบการ STEC เห็นระดับมาร์จิ้นฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป บล.หยวนต้ายังประมาณการกำไรปกติของปี 2564 ไว้เดิมที่ 1.3 พันล้านบาท ราคาเหมาะสมปี 2564 ที่ 22.00 บาท (อ้างอิง PBV-1.50SD ที่ 2.2เท่า)

สำหรับผลดำเนินงานไตรมาส 3/63 กำไรปกติจำนวน 235 ล้านบาท (+30%QoQ ,-30%YoY) ซึ่งดีกว่าบล.หยวนต้าและตลาดคาด 10-40% ผลจากการปรับตัวดีขึ้นของมาร์จิ้น และค่าใช้จ่ายขายและบริหารที่ลดลง

ส่วนแนวโน้มไตรมาส 4/63 มีบันทึกรายการพิเศษจากการขายหมอชิตแลนด์ คาด STEC มีโอกาสบันทึกกำไรพิเศษจากการขาย หมอชิตแลนด์ ราว 100-130 ล้านบาท จากส่วนต่างของราคาขาย ซึ่งจะทำให้ในไตรมาส 4/63 มีกำไรที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/63 ขณะที่การรับรู้รายได้ยังคงทำได้อย่างต่อเนื่องจากงานในมือเช่นโครงการ รถไฟฟ้าสายสีส้ม -ชมพู-เหลือง รวมถึง งานโรงไฟฟ้า โดยมีประเด็นติดตามคือการควบคุมระดับมาร์จิ้น เนื่องจากยังมีแรงกดดัน จากโครงการรัฐสภาที่มีมาร์จิ้น 0% ซึ่งเป็นงานที่ใกล้ปิดโครงการ

พร้อมเข้าประมูลงานใหม่ แม้ว่า STEC จะมีงานในมือสูงกว่ากลุ่มที่ระดับ 8.7 หมื่นล้านบาท (ล่าสุดได้มีการเซ็นรับงานใหม่จากโครงการก่อสร้างโครงการพลังงานสะอาดจาก TOP งานติดตั้งโครงสร้างเหล็ก งานติดตั้งหอกลั่นฯ วงเงิน 2.4 พันล้านบาท) ซึ่งนับจากต้นปี ปัจจบัน STEC มีการเซ็นสัญญารับงานใหม่แล้วกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท

ขณะเดียวกันในปี 2564 มีงานที่อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญา 1) สนามบินอู่ตะเภา วงเงินเฟสแรกราว 2 หมื่นล้านบาท และ 2) งานมอเตอร์เวย์ O&M 2 โครงการวงเงินก่อสร้าง ราว 4-5 พันล้านบาท ส่งผลให้ STEC มีงานในมือเข้าสู่ระดับแสนล้านบาทภาย ทั้งนี้ STEC ให้ความสนใจเข้าประมูลเพิ่ม คือ รถไฟฟ้าสายสีส้ม (ส่วนต่อขยาย) โดยการร่วมกับพันธมิตรในการเข้าประมูลภายใต้ชื่อ BSR (BTS+BTSC+STEC) รวมถึงงานอื่นๆเช่น รถไฟทางคู่ 2 เส้นทางคือ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และ สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร- นครพนม ซึ่งจะเป็นงานใหม่เข้ามาช่วยเสริมในปี 2564

บล.เคทีบี มองกำไรไตรมาส 3/63 STEC ออกมาดีกว่าคาด ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเล็กน้อยเป็น 14.00 บาท จากเดิม 13.50 บาท อิงคาดการณ์ปี 2564 พี/อี 18.9 เท่า เบื้องต้นคงคำแนะนำ ถือ แม้ปัจจุบัน backlog ปัจจุบันของบริษัทยังอยู่ในระดับแข็งแกร่งราว 8 หมื่นล้านบาท แต่บล.เคทีบีต้องการรอฟังความชัดเจนถึงแนวโน้ม GPM ว่าจะสามารถ sustain ได้หรือไม่ ขณะที่ล่าสุดมีกระแสข่าวว่ารัฐอาจขยายสัญญาโครงการรัฐสภาต่ออีก ทำให้อาจเป็นปัจจัยกดดันทิศทางมาร์จิ้นต่อเนื่องในปี 2564

หุ้น STEC ณ เวลา 12.08 น. อยู่ที่ 12.10 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง