VGI แรงพุ่งเฉียด10% รับเคอรี่ฯ จ่อขาย 300 ล้านหุ้น

HoonSmart.com>>”วีจีไอ”วอลุ่มแน่น ราคาวิ่ง รับบริษัทลูก  เคอรี่ เอ็กซ์เพรส จ่อขาย IPO จำนวน 300 ล้านหุ้น  

บริษัท วีจีไอ(VGI) พุ่งขึ้น 9.35% หรือ +0.65 บาทซื้อขายที่ 7.60 บาท ณ เวลาประมาณ 11.20 น. วันที่ 16 พ.ย. รับข่าว บริษัทเคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) หรือ KEX เดินหน้าเข้าตลาดหุ้น หลังจากสำนักงานก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง เตรียมเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 300 ล้านหุ้น เข้าตลาดหุ้น

นายอเล็กซ์ อึ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) กล่าว บริษัทได้รับการยอมรับในฐานะที่เป็นผู้ขับเคลื่อนธุรกิจ รายแรก ที่พัฒนาคุณภาพการบริการอย่างรวดเร็วไม่เคยหยุดพัฒนาและสรรค์สร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญของการขับเคลื่อนธุรกิจอีคอมเมิร์ซและโซเชียลคอมเมิร์ซ มุ่งมั่นรักษาความเป็นผู้นำธุรกิจอย่างต่อเนื่องผ่านนวัตกรรมและบริการที่เป็นเลิศ

ปัจจุบัน เคอรี่ เอ็กซ์เพรส ให้บริการลูกค้าในธุรกิจที่หลากหลาย ผ่านเครือข่ายที่ครอบคลุม ด้วยจุดให้บริการกว่า 15,000 จุดและศูนย์กระจายพัสดุกว่า 1,200 แห่งทั่วประเทศ

“เราขับเคลื่อนด้วยคนและเทคโนโลยี จึงมุ่งมั่นยกระดับมาตรฐานความเป็นผู้นำธุรกิจของเราอย่างไม่หยุดยั้ง โดยให้ความสำคัญอย่างมากกับคุณภาพการบริการและนวัตกรรม รวมทั้งความใส่ใจต่อพนักงานและพันธมิตร เพราะเราคือ “ผู้นำด้านการจัดส่งพัสดุด่วนสำหรับทุกคน” นายอเล็กซ์ อึ้ง  กล่าว

นางสาววีณา เลิศนิมิตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานวาณิชธนกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์   ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า  บริษัท เคอรี่ ฯ มีศักยภาพการเติบโตสูงและอยู่ในธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากเมกะเทรนด์ด้านอีคอมเมิร์ซ

นายประเสริฐ ตันตยาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรสฯเป็นผู้นำในธุรกิจให้บริการจัดส่งพัสดุด่วนภาคเอกชนในประเทศไทยและเป็นผู้ประกอบการรายแรกในธุรกิจ  ที่เดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยเป็นผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการจัดส่งพัสดุด่วน ซึ่งถือเป็นห่วงโซ่สำคัญสำหรับการดำเนินธุรกิจอีคอมเมิร์ซและโซเชียลคอมเมิร์ซในประเทศไทยอีกด้วย

ด้านผลการดำเนินงานของบริษัทเคอรี่ เอ็กซ์เพรสฯ เติบโตและสร้างผลตอบแทนอย่างต่อเนื่อง ในปี 2560-2562 มีรายได้จากการขายและให้บริการ อยู่ที่ 6,626.41 ล้านบาท 13,565.35 ล้านบาท และ 19,781.93 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ 730.26 ล้านบาท 1,185.10 ล้านบาท และ 1,328.55 ล้านบาท ตามลำดับ

สำหรับงวด 9 เดือนแรกของปี 2563  บริษัทสามารถรักษารายได้อยู่ที่ 14,688.92 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ในขณะที่มีกำไรสุทธิ 1,030.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน  แม้สภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภคได้รับผลกระทบจากวิกฤตไวรัสโควิด-19 ก็ตาม