น้ำมันดิ่ง กังวลสงครามการค้า

ราคาน้ำมันดิบดิ่ง หลังสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนระอุ เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า

บริษัท ไทยออยล์ รายงานราคาน้ำมันดิบร่วง หลังตลาดกังวลเกี่ยวกับการขยายความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน โดยล่าสุดสหรัฐฯ
จัดทำรายการเพื่อขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มเติมครอบคลุมสินค้ากว่า 6,000 รายการ ซึ่งจะเรียกเก็บภาษีในอัตรา 10% รวม
มูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งอาจจะส่งผลลุกลามต่อเศรษฐกิจของโลกและอาจจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันของโลก

ลิเบียเตรียมประกาศที่จะเปิดดำเนินการท่าขนส่งน้ำมันดิบอีกครั้ง หลังกำลังการผลิตน้ำมันดิบ ลดลงเหลือ
527,000 บาร์เรลต่อวัน จากระดับ 1.28ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือน ก.พ. 2561

ขณะเดียวกันค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น หลังตัวเลขเงินเฟ้อสูงขึ้น ส่งผลให้การซื้อสัญญาน้ำมันดิบปรับลดลงเนื่องจากใช้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ

สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA)รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 6 ก.ค. ลดลง 12.6 ล้านบาร์เรล
อยู่ที่ระดับ 405.2 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับลดลง 4.5 ล้านบาร์เรล และปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง
ณ จุดส่งมอบ คุชชิ่ง โอกลาโฮม่าปรับลดลง 2.1 ล้านบาร์เรล

ราคาน้ำมันเบนซิน และน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากอุปสงค์ที่ลดลงในช่วงฤดูมรสุม และกำลัง
การผลิตของโรงกลั่นน้ำมันในภูมิภาคที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดีเซลยังได้รับแรงหนุนจากการส่งออกน้ำมันดีเซลจากญี่ปุ่นที่ปรับตัวลดลง

แนวโน้มในสัปดาห์นี้ ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 68-73 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 71-76 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล