TISCO โชว์งบไตรมาส 2/2561 กำไรสุทธิ 1.70 พันล้านบาท เติบโต 13.6% จากงวดปีก่อน รายได้ทุกธุรกิจเพิ่ม แต่ลดลง 3.19% จากไตรมาสก่อนหน้า ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแตะ 2.69% เหตุลูกหนี้ธุรกิจขนาดกลางมีปัญหาชำระหนี้
บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.2561 กำไรสุทธิ 1,709.43 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.14 บาท เพิ่มขึ้น 13.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1,505.13 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.88 บาท ส่วนงวด 6 เดือน ปี 2561 กำไรสุทธิ 3,475.24 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 4.34 บาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 2,995.90 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 3.74 บาท
ทั้งนี้ กำไรไตรมาส 2/2561 ลดลงเล็กน้อย 3.19% จากไตรมาส 1/2561 มีกำไรสุทธิ 1,765.81 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.22 บาท
ส่วนกำไรเพิ่มขึ้นในไตรมาส 2/2561 ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจากธุรกิจหลัก รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 15.1% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน จากความสามารถในการรักษาอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อรวมและการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ประกอบกับการรับโอนธุรกิจลูกค้ารายย่อยจากธนาคารสแดตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2560
รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจากธุรกิจหลักปรับเพิ่มขึ้น 10.6% จากทุกภาคธุรกิจ โดยรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจธนาคารพาณิชย์ขยายตัว 11.1% ตามการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของธุรกิจนายหน้าประกันภัย รายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่ม 16.4% ตามปริมาณการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นและรายได้ค่าธรรมเนียมพื้นฐษนของธุรกิจจัดการกองทุนเติบโต 15.7% จากการออกกองุนตอบรับความต้องการของลูกค้าในภาวะตลาดทุนผันผวน
ส่วนการตั้งสำรองหนี้สูญลดลงเล็กน้อย 1.4% เมื่อเทียบงวดเดียวกันของปีก่อนตามการบริหารคุณภาพสินทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมามีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.69% สาเหตุมาจากลูกหนี้สินเชื่อธุรกิจขนาดกลางรายหนึ่งประสบปัญหาชำระหนี้ ส่งผลให้สัดส่วนเงินสำรองหนี้สูญต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ปรับตัวมาอยู่ที่ 184.9%
สำหรับงวดครึ่งแรกของปี 2561 มีกำไรสุทธิ 3,475 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 479 ล้านบาท หรือ เติบโต 16.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
นายสุทัศน์ เรืองมานะมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ เปิดเผยว่า ปัจจัยหลักในการขยายตัวมาจากความสามารถในการสร้างรายได้ และการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของธุรกิจนายหน้าประกันภัย (Bancassurance) และธุรกิจที่เกี่ยวกับตลาดทุน ส่วนในภาพรวมสินเชื่อแม้จะปรับตัวลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า แต่ธุรกิจหลักของกลุ่มทิสโก้เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวในทิศทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะการขยายตัวของสินเชื่อจำนำทะเบียน (TISCO Auto Cash)
สำหรับกลยุทธ์ในช่วงที่เหลือของปีนี้ กลุ่มทิสโก้ยังคงมุ่งขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเป็นผู้ให้คำปรึกษาทางการเงินที่ดีแก่ลูกค้าในทุกกลุ่ม และนำเสนอบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้า ทั้งในกลุ่มลูกค้าเดิมผ่านการสร้างความร่วมมือระหว่างสายงาน (Cross-Selling) เพื่อเสนอบริการที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์และความต้องการที่หลากหลาย พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้า (Add Value) และขยายไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ที่มีการเติบโต โดยเฉพาะสินเชื่อจำนำทะเบียน “ทิสโก้ออโต้แคช” ที่ปล่อยผ่านช่องทาง “สมหวัง เงินสั่งได้” ที่ในครึ่งปีแรกขยายตัวมากถึง 19.0% ในส่วนของการขยายฐานลูกค้าเงินฝากจะเน้นกลุ่มระดับรายได้ปานกลางขึ้นไป และกลุ่มเข้าสู่วัยเกษียณตามแนวโน้มสังคมผู้สูงอายุ รวมถึงยังมองหาพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อขยายฐานลูกค้าและเพิ่มช่องทางบริการใหม่ๆ เพิ่มขึ้น
“ในภาพรวมเรายังคงเดินหน้าในการเป็นผู้ให้คำปรึกษาทางการเงินที่ดี คัดสรรและแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมตอบโจทย์ลูกค้าในแต่ละกลุ่ม ควบคู่ไปกับการควบคุมต้นทุน และการบริหารจัดการความเสี่ยงที่ดำเนินมาโดยตลอด” นายสุทัศน์ กล่าว