HoonSmart.com>> “เอแอลที” ลั่นปี 63 ลุยปรับโครงสร้างองค์กรและเงินทุนแกร่ง เตรียมพร้อมเติบโตก้าวกระโดดในอนาคต พร้อมผนึกพันธมิตรรุกธุรกิจเต็มรูปแบบ เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ พร้อมโชว์ไตรมาส 3/63 กำไรทะยาน 300% โครงการสมาร์ทกริดดันรายได้พุ่ง กอดงานในมือ 1,359 ล้านบาท
นายสมบุญ เศรษฐ์สันติพงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการเงินและบัญชี บริษัท เอแอลที เทเลคอม (ALT) เปิดเผยว่า ปี 2563 ถือเป็นปีแห่งการปรับโครงสร้างองค์กร ปรับพอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องกับสภาวะธุรกิจและสถานะเงินทุนของกิจการ เพื่อเตรียมความพร้อมต่อการเติบโตในอนาคตควบคู่กับการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจด้วยการผนึกกำลังกับพันธมิตร ที่จะช่วยต่อยอดและขยายฐานธุรกิจให้สอดคล้องกับทิศทางและโอกาสของการพัฒนาด้านเทคโนโลยี การพัฒนาเมืองและสังคม รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยมีกรอบการพัฒนาและเพิ่มคุณค่าในทรัพยากรและเร่งการใช้ประโยชน์จากโครงข่ายที่ลงทุนขยายฐานลูกค้าภายในประเทศ ให้เชื่อมโยงไปสู่กิจการไฟฟ้าด้วยการร่วมทุนกับบริษัท ราช กรุ๊ป จัดตั้งบริษัทร่วมทุน สมาร์ทอินฟราเนท จำกัด
นอกจากนี้ยังเติมเต็มความสมบูรณ์โครงการ Smart Grid ด้วยการเข้าซื้อกิจการผู้ผลิตสมาร์ทมิเตอร์ คือ บริษัท เอ็นเนอร์จี แม็คซ์ จำกัด รวมทั้งเสริมคุณค่าโครงข่ายด้วยเทคโนโลยี เชื่อมโยงบริการเข้ากับการใช้ยานพาหนะ เช่น ชำระค่าผ่านทาง การตรวจจับวินัยจราจร ธุรกิจประกันภัยรถยนต์
ขณะเดียวกัน บริษัทยังเสริมมูลค่าโครงข่ายด้วย Platform ในโครงการ Fiber Space เป็นการบูรณาการโครงข่ายของบริษัททุกโครงการเข้าด้วยกัน ให้เห็นเป็นรูปธรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ รวมถึงขยายโอกาสทางธุรกิจด้วยการขยายบริการไปถึงโครงข่ายของพันธมิตร เช่น โครงข่ายของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต พร้อมขยายฐานรายได้ของทรัพย์สิน และใบอนุญาตโทรคมนาคมที่มีอยู่ในกลุ่ม Multinational Operators เพื่อให้ประเทศไทยพัฒนาไปสู่ ASEAN DIGITAL HUB
นายสมบุญ กล่าวว่า สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2563 บริษัทมีรายได้รวม 501.99 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 103.5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 246.51 ล้านบาท ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 67.25 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 300.8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 33.50 ล้านบาท โดย ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2563 บริษัทมีงานรอรับรู้รายได้ (Backlog) จำนวน 1,359 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/2563 ราว 30%
“สาเหตุที่รายได้และกำไรปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากบริษัทมีรายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้น 230.82 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 250.7% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 92 ล้านบาท ซึ่งรายได้หลักที่เพิ่มขึ้นคือรายได้จากโครงการ Smart Grid นอกจากนี้รายได้จากการให้บริการโครงข่ายเพิ่มขึ้น 82.9%” นายสมบุญกล่าว
อ่านต่อ