ดาวโจนส์ ปิดพุ่ง 834 จุด รับผลทดสอบวัคซีนโควิดได้ผล

HoonSmart.com>> ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 834 จุด รับผลทดสอบวัคซีนโควิดได้ผล นักลงทุนขายกลุ่มเทคโนโลยี ด้านตลาดหุ้นยุโรปปรับเพิ่มขึ้นราคาน้ำมันดิบพุ่ง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average :DJIA) ปิดตลาด วันที่ 9 พฤศจิกายน 2563 ที่ 29,157.97 จุด เพิ่มขึ้น 834.57 จุด หรือ 2.95% หลังจากผลการทดสอบวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ที่ไฟเซอร์และไบโอเอ็นเท็ค ร่วมกันผลิตมีประสิทธิภาพในการรักษาสูงถึง 90% ส่งผลให้กลุ่มสายการบินและกลุ่มที่เกี่ยวข้องนำการปรับขึ้น

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,550.50 จุด เพิ่มขึ้น 41.06 จุด, +1.17%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,713.78 จุด ลดลง 181.45 จุด, -1.53%

ในช่วงแรกของการซื้อขาย ดัชนี DJIA ปรับขึ้นกว่า 1,600 จุด หรือ 5.7% แตะระดับ ออลไทม์ไฮ และเป็นการปรับขึ้นรายวันสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน แต่ตลาดปิดต่ำกว่าระดับสูงสุด จากการลดลงของกลุมเทคโนโลยี เพราะนักลงทุนสลับไปลงทุนในกลุ่มที่ราคาลดลงมาก

การประกาศประสิทธิภาพผลของวัคซีน เป็นสัญญานว่า อุตสาหกรรมยาอาจจะมีวิธีควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 ที่สงผลกระทบเศรษฐกิจ และทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 230,000 รายในสหรัฐฯ ขณะที่ดร.แอนโทนี เฟาซี ผู้เชี่ยวชาญโรคติดเชื้อระบุว่า การที่วัคซีนมีประสิทธิภาพ 90% นั้นถือว่าเกินกว่าคาด เพราะประสิทธิภาพเพียง 50%- 60% ก็ยอมรับได้แล้ว

กลุ่มเดินทาง ร้านอาหารและบริการ กลุ่มที่รับผบวกจากการเปิดเศรษฐกิจต่างปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากไฟเซอร์ประกาศผลการพัฒนาวัคซีน แต่กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่บ้านลดลง

ในกลุ่มเรือสำราญ หุ้นคาร์นิวัล คอร์ปเพิ่มขึ้น 39.3% หุ้นเซ้าท์เวสต์ แอร์ไลน์ เพิ่มขึ้น 9.7% หุ้นวอลต์ ดิสนีย์ เพิ่มขึ้น 11.9% เพราะนักลงทุนเชื่อว่าการมีวัคซีนจะทำให้ท่องเที่ยวในสวนสนุกได้มากขึ้น

กลุ่มธนาคารปรับเพิ่มขึ้นจากความหวังว่า เศรษฐกิจจะกลับมาสู่ภาวะปกติได้เร็ว กุ้นเจพี มอร์แกน เชส เพิ่มขึ้น 13.5% หุ้นแบงก์ออฟอเมรกาเพิ่มขึ้น 14.2% หุ้นซิตี้กรุ๊ปเพิ่มขึ้น 11.5%

กลุ่มเทคโนโลยีซึ่งรับผลบวกจากการทำงานที่บ้านปรับตัวลดลง หุ้นซูมวิดีโอลดลง 17.4% หุ้นแอมะซอนลดลง 5.1% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ลดลง 8.6%

เมื่อวานนี้เป็นการซื้อขายครั้งแรกของตลาดหลังจากรายงานข่าว คาดการณ์ว่า โจ ไบเดน ชนะผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี หลังจากผ่านการเลือกตั้งได้ 4 วัน ซึ่งตลาดคาดว่า ชัยชนะของไบเดนจะลดโอกาสการฟ้องร้องให้ยกเลิกการเลือกตั้ง

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามตลาดหุ้นทั่วโลก นำโดยกลุ่มธนาคารที่เพิ่มขึ้นกว่า 12%จากการประเมินว่าว่า โจ ไบเดน จะได้นั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯและจากข่าวการพัฒนาวัคซีนของไฟเซอร์

นักวิเคราะห์ระบุว่า ข่าววัคซีนถือว่าเป็นก้าวแรกในการกลับสู่ภาวะปกติของประเทศได้รับผลกระทบรุนแรงจากการระบาดของไวรัส แต่วัคซีนไม่ใช่ยาขนานเดียวเพราะยังมีอีกหลายประเด็นที่ประเทศกำลังพัฒนากำลังเชิญในเชิงโครงสร้าง และวัคซีนไม่สามารถป้องกันการว่างงานจำนวนมากได้

หุ้นโรลลส์-รอยซ์เพิ่มขึ้น 44%

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 380.99 จุด เพิ่มขึ้น 14.59 จุด, +3.98

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,186.29 จุด เพิ่มขึ้น 276.27 จุด, +4.67%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,336.32 จุด เพิ่มขึ้น 375.44 จุด, +7.57%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,095.97 จุด เพิ่มขึ้น 615.95 จุด, +4.94%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบ เดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 3.15 ดอลลาร์ หรือ 8.5% ปิดที่ 40.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมกราคมเพิ่มขึ้น 2.95 ดอลลาร์ หรือ 7.5% ปิดที่ 42.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

อ่านข่าว

ราคาน้ำมันดิบพุ่งกว่า 7% ขานรับผลทดสอบวัคซีนคืบหน้า