HoonSmart.com>> บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ไตรมาส 3/63 กำไรสุทธิ 69 ล้านบาท ลดลง 37% จากงวดปีก่อน รายได้ค่านายหน้าลดลงตามวอลุ่มตลาดหลักทรัพย์ลดลง 9.85% จาก 6.2 หมื่นล้านบาทต่อวัน เหลือ 5.6 หมื่นล้านบาทต่อวัน งวด 9 เดือน กำไร 310 บาท ทะยาน 108%
บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) หรือ MBKET เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2563 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.2563 กำไรสุทธิ 68.73 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.12 บาท ลดลง 37.45% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 109.88 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.19 บาท
ส่วนงวด 9 เดือน ปี 2563 กำไรสุทธิ 310.42 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.54 บาท เพิ่มขึ้น 108% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 149.04 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.26 บาท
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ผลดำเนินงานไตรมาส 3/2563 กำไรสุทธิลดลง 41.15 ล้านบาท หรือ 37.45% จากงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุเกิดจากรายได้ค่านายหน้าลดลง 39.58 ล้านบาท จาก 433.95 ล้านบาท เป็น 394.37 ล้านบาท หรือลดลง 9.12% เนื่องจากรายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์ลดลง 37.57 ล้านบาท จาก 393.99 ล้านบาท เป็น 356.42 ล้านบาท หรือลดลง 9.54% เป็นผลจากมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ลดลงจาก 62,275 ล้านบาท/วัน เป็น 56,139 ล้านบาท/วัน หรือลดลง 9.85%
รายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าลดลง 2.01 ล้านบาท หรือลดลง 5.03% เหลือ 37.95 ล้านบาท รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการลดลง 20.99 ล้านบาท หรือ 58.83% เหลือ 14.69 ล้านบาท เนื่องมาจากค่าธรรมเนียมจากที่ปรึกษาทางการเงินลดลง 29.43 ล้านบาท ขณะที่ค่าธรรมเนียมจากการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 4.45 ล้านบาทและค่าธรรมเนียมและบริการอื่นเพิ่มขึ้น 3.99 ล้านบาท
ส่วนรายได้อื่นลดลง 43.97 ล้านบาท หรือลดลง 21.42% เหลือ 161.31 ล้านบาท เนื่องมาจากรายได้ดอกเบี้ยลดลง 63.91 ล้านบาทและรายได้อื่นลดลง 0.67 ล้านบาท ขณะที่กำไรจากเงินลงทุนและตราสารอนุพันธ์เพิ่มขึ้น 20.61 ล้านบาท
ด้านค่าใช้จ่ายรวมลดลง 43.78 ล้านบาท ลดลง 8.18% อยู่ที่ 491.50 ล้านบาท เนื่องมาจาก ค่าใช้จ่ายผลประโยชน์พนักงานลดลง 6.18 ล้านบาท ค่าธรรมเนียมและบริการจ่ายลดลง 7.85 ล้านบาทและค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดลง 30.55 ล้านบาท ขณะที่หนี้สญูและหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น 0.08 ล้านบาทและค่าใช้จ่ายอื่นเพิ่มขึ้น 0.60 ล้านบาท โดยในงวดปัจจุบัน บริษัทมีรายการผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น 0.12 ล้านบาท ตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินใหม่
