จับตาธุรกิจ AEC หลังเพิ่มทุนสำเร็จ 305 ล้านบาท “ลุชัย ภุขันอนันต์” โยงถือ EA-BFIT

HoonSmart.com>>จับตาธุรกิจบล.เออีซี (AEC)  หลังเพิ่มทุนรับทรัพย์กระเป๋าตุง 305 ล้านบาท ราคาหุ้นวิ่งมาราธอน 13 ซิลลิ่ง หุ้นเพิ่มทุน 10 สตางค์  “ประพล” ยกบิ๊กล็อตราคา 9 สตางค์ต่ำกว่าเพิ่มทุนให้ “ลุชัย ภุขันอนันต์” นักลงทุนรายใหญ่  พบโยงผู้ถือหุ้น EA อันดับ 6 และหุ้น BFIT อันดับ 3

หลังการเพิ่มทุนของบริษัทหลักทรัพย์ เออีซี (AEC) ซึ่งนายประพล มิลินทจินดา ผู้ถือหุ้นใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้หุ้นจำนวนมาก 35.91 % เกินสัดส่วน 25 %  ณ วันที่ลูกหุ้นเพิ่มทุนเข้าซื้อขาย (3 ก.ย.)  ราคาเพิ่มทุน 0.10 บาท เท่ากับราคาหุ้นบนกระดาน 0.09-0.10 บาท แต่ปัจจุบันราคาหุ้นวิ่งขึ้นมา 0.46 บาท เป็นการขึ้นชนเพดานหรือซิลลิ่งถึง 13 วันติดต่อกัน

การปรับตัวขึ้น 13 % ของหุ้น หากเป็นหุ้นที่ดำเนินธุรกิจตามปกติ ผลดำเนินงานมีกำไร สนับสนุน ถือว่าไม่แปลก ที่นักลงทุนเห็นศักยภาพการเติบโต การทำกำไร  หลังเพิ่มทุนได้เงินไปต่อยอดรายได้

สำหรับ บล.เออีซี ที่ผ่านมาธุรกิจเกือบจะหยุดชะงัก หลังจากถูกสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์  (ก.ล.ต.) สั่งหยุดประกอบธุรกิจการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ 2 สัปดาห์ เพราะเงินกองทุนต่ำกว่าเกณฑ์ที่ก.ล.ต.กำหนด เนื่องจากบล.เออีซี นำเงินไปลงทุนหุ้นกู้ จนเกิดความเสียหายขึ้นในหุ้นกู้บริษัทการบินไทย

ระหว่างที่บล.AEC หยุดประกอบธุรกิจนายหน้าซื้อขายหุ้น ลูกค้าที่ซื้อขายหุ้นกับ AEC ได้ย้ายไปซื้อขายกับโบรกเกอร์อื่น ซึ่งหมายความว่า มาร์เก็ตติ้ง (เจ้าหน้าที่การตลาด ) ก็ย้ายออกไปด้วยเช่นเดียวกัน  รวมทั้งก่อนหน้านี้ บล.เออีซี ได้ขายพอร์ตลงทุนรายย่อยให้กับบล.ยูโอบี เคย์เฮียน แทบจะบอกได้ว่า บล.เออีซี  ดำเนินธุรกิจแบบจุ๋มจิ๋มน่ารัก ขณะที่งานที่ปรึกษาการเงิน ( วาณิชธนกิจ ) นำหุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์ หรือ การร่วมขายหุ้น ไอพีโอ แทบนับครั้งได้ เมื่อเทียบกับโบรกเกอร์อื่น ๆ ที่การทำธุรกิจแอ็คทีฟ ขณะนี้ Head IB ก็หยุดการทำงาน เพราะไม่ได้รับเงินเดือน ทำให้งานสะดุด

การปรับตัวขึ้นของราคาหุ้น AEC กำลังถูกจับตาจากตลาดหลักทรัพย์ ที่จี้ถามถึงสาเหตุราคาขึ้น แต่ได้รับคำตอบจากบริษัท ว่าไม่มีข่าวดี หรือสารสนเทศใด ๆ กับราคาหุ้น

มันน่าแปลกใจใช่มั้ย ที่ราคาหุ้น AEC มาไกลได้ขนาดนี้ เทียบกับการดำเนินธุรกิจปกติของบริษัท ไม่มีเหตุผลใด ๆ ที่หุ้นจะวิ่งมาราธอนแบบนี้ได้ นอกเสียจาก การเปลี่ยนมือผู้ถือหุ้น จาก “ประพล” ไปเป็นทุนใหม่ ที่มีศักยภาพรับไม้บริหารต่อ

ที่สำคัญหลังเพิ่มทุน บริษัท ฯ มีเงินเพิ่มทุน 305.811 ล้านบาท จะนำไปใช้อย่างไร เพื่ออะไร เพราะถือเป็นเงินก้อนสำคัญในยามที่เงินหาไม่ง่ายยุคนี้  เงินจำนวนนี้ต้องไม่เอื้อใครคนใดคนหนึ่ง และสามารถตรวจสอบได้ เพราะเป็นเงินผู้ถือหุ้นที่ใส่เข้ามา มีวัตถุประสงค์ในการเพิ่มทุน  ซึ่ง AEC มีภาระต้องจ่ายหนี้ที่ผู้บริหาร ยืมมาเพื่อให้เงินกองทุนได้ตามเกณฑ์ก.ล.ต. 150 ล้านบาท จ่ายค่าจ้างพนักงาน ฯ

หากมองให้ทะลุไปยังนักลงทุนรายใหญ่ ที่ชื่อ ” ลุชัย ภุขันอนันต์” คนนี้เข้ามาซื้อบิ๊กล็อตจาก “ประพล ” จำนวน 469 ล้านหุ้น คิดเป็น 10.95 % ราคาหุ้นละ 0.09 บาท  “ลุชัย ” ยังถือหุ้น EA (พลังงานบริสุทธิ์ ) อันดับ 6 จำนวน 145.63 ล้านหุ้น คิดเป็น 3.90 % ( ณ 20/03/63 ) ถือหุ้น BFIT (เงินทุนศรีสวัสดิ์) จำนวน 8.48 ล้านหุ้น หรือ 1.54 % ( 7/07/63 )

การเชื่อมโยง “นักลงทุนรายใหญ่” กับธุรกิจของ AEC มีโอกาสสูงที่จะถูกกิน จากเครือข่ายนักลงทุนกลุ่มนี้ และมีความเป็นไปได้สูง เพราะ ผู้ถือหุ้นใหญ่ AEC สนิทคุ้นเคยอย่างดีกับเครือข่ายนักลงทุน เจ้าของธุรกิจพลังงานทดแทนรายใหญ่ ด้วย

ที่สำคัญรายย่อยที่เข้าไปเก็งกำไรหุ้น AEC มีความเสี่ยงอย่างสูง กับการหยุดซื้อขายหุ้น ว่ากันว่า คดีความฟ้องร้องของผู้ถือหุ้นใหญ่ จะส่งผลถึง AEC ด้วย  จับตาดูกัน