เชียร์ 5 หุ้นถูก ไล่ซื้อกลับแรง ระวังชอร์ตยังไม่จบ รอเก็บ 1200

HoonSmart.com>>หุ้นวิ่งตามต่างประเทศ บวก 10 จุด คลายกังวลวันแรกใช้เกณฑ์ชอร์ตเซลปกติ ราคาหุ้นพลังงานฟื้น บล.หยวนต้าเห็นโอกาส 5 หุ้นรอซื้อกลับ MINT-PTT-TOP-BANPU-IRPC ส่วนทรีนีตี้เตือนอย่าชะล่าใจ ยังทิ้งไม่เลิก ระวังแรงระบาย MINT-CENTEL-AWC-ERW-AOT-HMPRO-GLOBAL-DTAC-JAS นักวิเคราะห์ฟันธงเดือนต.ค.ไม่สดใส บล.ไทยพาณิชย์แนะทยอยซื้อแถว 1,200 จุด รอขายสิ้นปี 1,300 จุด เป้าหมายตรงกับสมาคมนักวิเคราะห์

วันที่ 1 ต.ค. 2563 เป็นวันแรกของการกลับมาใช้เกณฑ์ชอร์ตเซลปกติ เพดานราคาขึ้นสูงสุดและลงต่ำสุด (ซิลลิ่ง-ฟลอร์) 30% เป็นวันแรก ตลาดไม่ได้กระแทกอย่างที่กังวล แม้จะมีความผันผวนบ้าง แต่สุดท้ายดัชนีปิดที่ 1,247.59 จุด +10.55 จุด หรือ +0.85% มูลค่าการซื้อขาย 44,863.49 ล้านบาท

นักลงทุนแต่ละกลุ่มมีการขายไม่มาก ส่วนหนึ่งเนื่องจากภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศสดใส และราคาหุ้นหลายตัวปรับตัวลงมามากเกินไป จึงมีแรงซื้อกลับ เช่นหุ้นพลังงาน โดยเฉพาะครอบครัวปตท. นำโดย IRPC, TOP, PTTGC ,PTT รวมถึงตลาดรอข่าวดีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยและสหรัฐ

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย.2563 ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศกลับมาใช้เกณฑ์ชอร์ตเซลปกติ ซิลลิ่ง-ฟลอร์ 30% พบว่าหุ้นใน SET100 ลงมาแล้วเฉลี่ย -4% เทียบกับ MSCI Asia ex Japan ที่ทรงตัว สะท้อนแรงขายล่วงหน้าเพื่อรับการกลับมาใช้เกณฑ์เดิมไปแล้วพอควร

ในทางตรงข้าม หุ้นที่ถูกชอร์ตเซลไปมากเมื่อเทียบกับจำนวนที่ซื้อขายในตลาด และราคาปัจจุบันต่ำกว่าต้นทุนเฉลี่ยเกิน 3% ขึ้นไป คาดว่าจะมีโอกาสฟื้นตัวจากการ Short Covering ซึ่งได้แก่ MINT, PTT, TOP, BANPU, IRPC

ด้านบล.ทรีนีตี้ มองเป้าหมายหุ้นถูกชอร์ตเซลในระยะถัดไป คือกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว และการบริโภคภายในประเทศ เนื่องจากมีแนวโน้มผลประกอบการระยะสั้นน่าผิดหวัง  มูลค่าหุ้นยังสูง จึงควรระมัดระวังอย่างมาก เพราะเริ่มเห็นสัดส่วนการชอร์ตเซลสูงขึ้นในช่วงหลังอย่างมีนัยสำคัญได้แก่ MINT-CENTEL-AWC-ERW-AOT-HMPRO-GLOBAL-DTAC-JAS ส่วนกลุ่มธนาคารมองว่ามีความเสี่ยงเรื่องผลประกอบการในอนาคตด้วยเช่นกัน

ส่วนตลาดหุ้นในเดือนต.ค. นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ดัชนีแกว่งตัวในกรอบที่ 1,190-1,270 จุด จากการกลับมาใช้เกณฑ์ปกติในการชอร์ตเซลและเจอบททดสอบจากการเตรียมเข้าสู่ช่วงของการประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/63 ซึ่งมีโอกาสสร้างความผิดหวังให้กับตลาดได้ รวมถึงแนวโน้มกำไรปี 64 ที่นักวิเคราะห์อาจต้องมีการปรับลดประมาณการกำไรต่อหุ้นของตลาดครั้งใหม่ได้ รวมถึงการหมดอายุมาตรการพักชำระหนี้ของธปท.

” หุ้นขนาดกลางและเล็กยังคงเป็นทางเลือกที่ดี หากดัชนียังลงไปไม่ถึงระดับ 1,200 จุดหรือต่ำกว่า จึงเลือกหุ้นที่อยู่นอกดัชนี SET50 ทั้งหมด และต้องเป็นหุ้นที่ในรอบ 3 เดือนถูกปรับประมาณการขึ้น มี Forward P/E ปี 2564 ยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลัง และเป็นหุ้นที่มีการเติบโตของกำไรเฉลี่ยในช่วงปี 63-64 เป็นบวก พบว่ามีหุ้นที่ผ่านเกณฑ์อยู่ทั้งหมด 10 ตัวด้วยกัน ได้แก่ ASIAN, CHAYO, ICHI, ILINK, JMART, PRM, PTG, STGT, UTP, WICE” นายณัฐชาตกล่าว

อ่านประกอบ

SCBS แนะรอซื้อ 1,200 ขาย1,300 เฟ้นหุ้นเด่น Q4/63