HoonSmart.com>> เมืองไทยประกันชีวิต และมูลนิธิเมืองไทยยิ้ม ดำเนินโครงการ เมืองไทยอนุรักษ์ทะเลไทย “สร้างบ้านปลา อนุรักษ์พันธุ์หมึกหอม” ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นการรวมตัวกันระหว่างชาวประมงจาก 6 หมู่บ้าน เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำประมงเชิงอนุรักษ์
นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต และมูลนิธิเมืองไทยยิ้ม นำทีมผู้บริหาร ลงพื้นที่ชุมชนประมงบ้านโคกตาหอม ต.อ่างทอง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ดำเนินโครงการ เมืองไทยอนุรักษ์ทะเลไทย “สร้างบ้านปลา อนุรักษ์พันธุ์หมึกหอม” ซึ่งเป็นการต่อยอดการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลจาก จ.นครศรีธรรมราช และจ.ชุมพร โดยโครงการดังกล่าวเป็นการรวมตัวกันระหว่างชาวประมงจาก 6 หมู่บ้านในอำเภอทับสะแก เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำประมงเชิงอนุรักษ์ และได้เปิดเป็น ศูนย์เรียนรู้ชุมชนกลุ่มประมงชุมชนบ้านโคกตาหอม ให้ความรู้เรื่องการเพาะพันธุ์หมึกหอม โดยมีหลักการ ดังนี้
1.เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของกลุ่มชุมชนประมงบ้านโคกตาหอม ให้เป็นศูนย์กลางในการวิจัยด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลตามแนวทางการทำประมงพื้นบ้าน
2.เพื่อสนับสนุนให้กลุ่มชุมชนประมงแห่งนี้ พัฒนาเป็นแหล่งเรียนรู้ประจำชุมชนซึ่งเปิดโอกาสให้ นักเรียนนักศึกษา และผู้สนใจ ได้เข้ามาศึกษาหาความรู้จากประสบการณ์จริง
3.เพื่อดึงดูดและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ให้เป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีการวางแนวทางการอนุรักษ์พันธุ์หมึกหอม ซึ่งมีหน้าที่หลักคือเก็บไข่หมึกที่ติดอวนลากของชาวประมงนำมาเลี้ยงเพื่อทำการอนุบาลจนเป็นตัวอ่อนที่สามารถเติบโตได้ต่อไป หลังจากนั้นนำลูกหมึกหอมไปปล่อยกลับคืนสู่ทะเล พร้อมกันนี้ได้มอบเงินสนับสนุนให้แก่กลุ่มชุมชนประมงบ้านโคกตาหอม เพื่อให้ชุมชนนำไปใช้ในกิจกรรมการอนุรักษ์สัตว์น้ำทะเลต่อไป โดยมีนายเกริกเกียรติ ลาภอาภารัตน์ ประธานองค์กรชุมชนประมงบ้านโคกตาหอม เป็นผู้รับมอบ รวมทั้งได้ร่วมกันปล่อยลูกหมึกหอม หอยหวาน และปูม้า สู่ท้องทะเลเพื่อเป็นการร่วมอนุรักษ์ ขยายพันธุ์ลูกหมึกหอม หอยหวาน และปูม้า ให้อยู่คู่กับท้องทะเลไทย
“บริษัทฯ ยังคงยึดนโยบายการดำเนินธุรกิจควบคู่กับการตอบแทนเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งหวังการพัฒนา สร้างสรรค์ ให้สังคมเติบโตได้อย่างมีคุณภาพและอยู่ได้อย่างยั่งยืน ซึ่งการลงพื้นที่ทำกิจกรรมในครั้งนี้เราก็หวังว่าจะเป็นส่วนช่วยในการฟื้นฟู พัฒนา และต่อยอดการอนุรักษ์ เพื่อนำไปสู่ความยั่งยืนของทรัพยากรทางทะเล รวมไปถึงการช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าวให้กลับมามีศักยภาพและมีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนอีกครั้ง” นายสาระ กล่าว