คปภ.เตรียมเปิดอินชัวร์ มอลล์ ศูนย์รวมประกันภัยออนไลน์

HoonSmart.com>>คปภ. เตรียมเปิดอินชัวร์ มอลล์ ตลาดประกันภัยออนไลน์ตามโลกที่เปลี่ยนไป เปิดบริษัทประกันภัย ธนาคาร โบรกเกอร์ ร่วมเปิดร้าน พร้อมจัดส่วนลด 30% พร้อมพัฒนาเอไอด้วยตัวเอง มาใช้ในการขับเคลื่อนสินค้านวัตกรรมรับฐานข้อมูลขนาดใหญ่ในอีก 2-3 ปีข้างหน้าตอบโจทย์ความหลากหลายในสังคม

นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวในงาน Thailand Insurance Symposium 2024 ว่า ปัจจุบันเบี้ยประกันภัยทั้งระบบมีประมาณ 9.4 แสนล้านบาท มีสินทรัพย์ลงทุน 3.6 ล้านล้านบาท นับว่าเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศที่มีประมาณ 18 ล้านล้านบาท

ในขณะที่ เบี้ยประกันสุขภาพในปี 2567 เติบโตถึง 8% และบางปีโตกว่า 10% ซึ่งเป็นผลมาจากคนไทยมีอายุมากขึ้นและอายุยืนมากขึ้น และการที่สังคมไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอดเพราะมีผู้สูงอายุถึง 20% ของประชากรทั้งหมด จะทำให้การประกันสุขภาพเติบโตตามไปด้วย

ทั้งนี้ คปภ.อยู่ระหว่างพัฒนาเอไอ เพื่อนำมาใช้ในการดำเนินงานและการให้บริการ จะได้เพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ หลังจากฐานข้อมูลกลางประกันภัย (IBS) จะมีความสมบูรณ์ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า

“เรากำลังจะเปิดดิจิทัลมาร์เก็ต หรือตลาดประกันภัยออกไลน์ ชื่อ อินชัวร์ มอลล์ ให้บริษัทประกันภัย ทั้งชีวิต และวินาศภัย รวมถึงบริษัทนายหน้าประกันภัย ธนาคาร เข้ามาขายประกันภัยออนไลน์ผ่านอินชัวร์ มอลล์ ซึ่งขณะนี้มีผู้แจ้งความประสงค์เข้ามาแล้ว 50 ราย และจะมีการให้ความรู้เรื่องการประกันภัย ซึ่งจะทำให้ประชาชนทั่วประเทศเข้าถึงประกันภัยได้ โดยในช่วงแรกของการเปิดตลาด จะมีโปรโมชั่นส่วนลด 30% ด้วย”นายชูฉัตร กล่าว

สำหรับช่วง การอภิปรายหัวข้อ Future Landscape in Digital Insurance นั้น

ดร.ชญานนิน เกิดผลงาม รองเลขาธิการ ด้านกลยุทธ์และเทคโนโลยี คปภ. กล่าวว่า ธุรกิจประกันชีวิตมีการหันมาขายประกันชีวิตคุ้มครองตลอดชีพมากขึ้น ทำให้เบี้ยประกันชีวิตเติบโตชะลอตัวลง แต่ส่งผลดีในระยะยาวต่อประชาชน
ขณะที่ ประกันสุขภาพจากภาคธุรกิจประกันชีวิต มีการเติบโตสูงถึง 11% เบี้ยรวมถึงแสนล้านบาทแล้ว ผลจากสังคมสูงอายุทำให้คนหันมาสนใจทำประกันสุขภาพสูงขึ้น ส่วนประกันแบบบำนาญยังมีไม่มาก ซึ่งทางคปภ.อยู่ระหว่างผลักดันโดยปีนี้เติบโตเพิ่มขึ้นเป็นตัวเลขสองหลัก

ด้าน ธุรกิจประกันวินาศภัยปี 2567 เหนื่อย การเติบโตไม่มากจากยอดขายรถยนต์ที่ลดลงกว่า 20% ทำให้ประกันภัยรถยนต์ลดลง ส่งผลให้เบี้ยประกันภัยทั้งระบบลดลงตามไปด้วย

อย่างไรก็ตาม เบี้ยประกันภัยแบบฝังตัว หรือ embedded insurance ที่มีการขายไปพร้อมกับสินค้าไลฟ์สไตล์ เช่น สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ จะมีการขายอุปกรณ์ที่มีการประกันภัยไปในตัว เติบโตสูงถึง 45% แต่เบี้ยประกันภัยยังไม่มาก ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดทั่วโลก และเป็นหนึ่งในประกันที่เป็นอนาคตของโลก

รวมถึง ประกันการเดินทางที่มีการเติบโตตามจำนวนนักท่องเที่ยว และการท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้น

ด้านการลงทุน จากการที่อัตราดอกเบี้ยมีการปรับตัวลดลง ทำให้บริษัทประกันชีวิตเริ่มมีการปรับพอร์ตการลงทุนแล้ว

ทั้งนี้ บริษัทประกันจะมีการนำเทคโนโลยีและเอไอ เข้ามาใช้ในกระบวนการเคลมสินไหมทดแทนเพิ่มขึ้น และในปี 2568 ทาง คปภ.จะมีการออกเกณฑ์การกำกับดูแลการใช้เอไอให้มีความปลอดภัย โปร่งใส มีความรับผิดชอบ และไม่เลือกปฏิบัติออกมา

นอกจากนี้ ทางคปภ. ยังได้ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย และ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ในการเชื่อมต่อข้อมูลร่วมกัน และในต้นปี 2568 จะร่วมกันไปหารือกับทางกระทรวงศึกษาธิการ ในการนำความรู้ด้านการเงิน การลงทุน การประกันภัย เข้าไปใส่ไว้ในหลักสูตรการเรียนให้แก่เยาวชน

ดร.จุฑาทอง จารุมิลินท์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง กล่าวว่า ในมุมของเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม คือ ความเสี่ยงจากนโยบายทางเศรษฐกิจและการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะดึงดูดอุตสาหกรรมรถยนต์และเหล็กกลับเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาอีกครั้ง รวมถึงการลดภาษีนิติบุคคล การใช้พลังงานจากน้ำมัน และการขึ้นภาษีนำเข้าจากจีน 60% และประเทศอื่นๆ อีก 10-20% ความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติแบบซ้อนสาม ที่จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อาหาร และสุขภาพ จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย และธุรกิจประกันภัยไทยด้วย

ปี 2568 ทางสภาพัฒน์ฯ คาดว่าจีดีพี จะโต 2.3-3.3% จากการท่องเที่ยวและส่งออกเป็นหลัก ขณะที่ค่าเงินบาทจะแข็งขึ้นอยู่ระหว่าง 33-35 บาทต่อเหรียญสหรัฐ และหนี้ภาคครัวเรือนที่ยังสูง แต่หนี้สาธารณะอยู่ที่ 64% ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าเพดาน 70% ทำให้รัฐบาลสามารถที่จะก่อหนี้มากระตุ้นเศรษฐกิจได้อีก

เทคโนโลยี เป็นเครื่องมือในการที่จะยกระดับการเติบโตของประเทศไทย และเรื่องการแลกเปลี่ยนข้อมูล การเปิดเผยข้อมูลของประชาชน ต้องไม่รบกวนสิทธิส่วนบุคคลของลูกค้า

ขณะที่เอไอ และเทคโนโลยีที่มี ควรจะตอบโจทย์ หรือ แก้ปัญหา การซื้อประกันให้เกิดความง่ายขึ้น ราคาถูกลง ได้ความคุ้มครองที่ตรงใจ มีความโปร่งใสเข้าใจได้ และการบริการหลังการขายเป็นไปอย่างไร้รอยต่อ

นายสัมฤทธิ์ ตรงตรานนท์ ผู้อำนวยการสายงาน บริษัทยิบอินซอย กล่าวว่า ฐานข้อมูลในปัจจุบันยังมีความไม่ถูกต้อง 100% จะต้องทำความสะอาดข้อมูล หรือ Data Cleansing และจัดโครงสร้างของข้อมูลใหม่ เพื่อให้มีความถูกต้องสูงขึ้น เช่น ในกลุ่มสถาบันการเงิน ก็มีการทำ Cleansing ข้อมูลกันก่อนส่งไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย

นอกจากนี้ แนวโน้มของการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน หรือ การทำธุรกิจที่อิงทิศทาง ESG กำลังมา ซึ่งไทยมีเรื่องของการออกกรมธรรม์อิเล็กทรอนิกส์ มีการทำอี-เคลม

ทั้งนี้ ทุกองค์กรจะต้องมีการทำ GRC (การกำกับดูแล ความเสี่ยง และการปฏิบัติตาม) ให้เกิดความโปร่งใสในทุกกระบวนการทำงาน ครอบคลุมไปถึงลูกค้าและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ

ปัญหาที่พบในการที่จะนำเทคโนโลยีและเอไอมาใช้ขับเคลื่อนองค์กรคือ มีแต่นโยบาย แต่ไม่มีการกำหนดรายละเอียดในการดำเนินการที่ชัดเจน ฉะนั้นพอมีนโยบายแล้ว ต้องมีการวางกระบวนการทำงานกันใหม่ ต้องเพิ่มทักษะด้านเทคโนโลยีและเอไอให้บุคลากรด้วย

ปัจจุบัน ทั่วโลกกำลังนำเทคโนโลยีและเอไอ มาใช้ในการขับเคลื่อนองค์กรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดย การ์ทเนอร์ สถาบันวิจัยด้านเทคโนโลยี รายงานว่าปี 2573 คนทั่วโลกจะมีการใช้เอไอ มากถึง 80% จากอดีตที่ไม่ถึง 5%

ประกันแบบฝังตัวโตแรง

นาย Eugene Macey Partner,PwC SEA & Global Insurance Customer & Digital Leader กล่าวในหัวข้อ “Innovating for Tomorrow:The Future of CX & Digital Workbench in Insurance ระบุตอนหนึ่งว่า ต่อกรณีของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการเข้ามาของเทคโนโลยี GenAI 67% ของซีอีโอไทยส่วนใหญ่หวั่นว่าธุรกิจของตนจะไปไม่รอดในอีก 10 ปีข้างหน้า หากยังดำเนินธุรกิจในรูปแบบเดิมๆ ทำให้มีการตื่นตัวในการนำเทคโนโลยีและเอไอมาใช้ในการทำงาน

ขณะเดียวกัน เทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป ทำให้การประกันภัยแบบฝังตัว หรือ embedded insurance ในเอเชียมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดย PwC คาดว่าในปี 2573 จะมีมูลค่าถึง 230 พันล้านเหรียญสหรัฐ ผ่านการออกแบบประกันนวัตกรรม และร่วมมือกับพันธมิตรอย่างใกล้ชิดในการออกแบบประกันและช่องทางการขาย โดย 66% ของเบี้ยรับรวมจะมาจากช่องทางการขายใหม่ๆ ที่ไม่ใช่ช่องทางเดิม