BEC พลิกฟื้นครึ่งปีหลัง เตะตารายใหญ่จีบซื้อบิ๊กล็อต

HoonSmart.com>>”บีอีซี เวิลด์” โดดเด่น ราคาพุ่ง วอลุ่มแน่น นักลงทุนรายใหญ่มองผ่านจุดต่ำสุดแล้ว ขอซื้อบิ๊กล็อต แต่ไม่สำเร็จ คาดไล่เก็บในตลาด บล.หยวนต้าแนะเก็งกำไร เตือนราคาวิ่งเกินเป้าหมายนักวิเคราะห์เฉลี่ย 3.74 บาท 

การซื้อขายหุ้นบริษัท บีอีซี เวิลด์ (BEC) วันที่ 16 ก.ย. ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุด 5.25 บาท ก่อนปิดที่ 5.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.16 บาท คิดเป็น 3.24% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย กว่า 111 ล้านบาท  ขณะที่ภาวะตลาดโดยรวมเคลื่อนไหวแคบๆ ดัชนีปิดที่ 1,286.34 จุด +0.16 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 25,986 ล้านบาท สำหรับปิดตลาดภาคเช้า

แหล่งข่าวจากมาร์เก็ตติ้งกล่าวว่า หุ้น BEC ปรับตัวขึ้นแรงผิดปกติในช่วงนี้ จากที่ผ่านมาเคยซื้อขายไม่ถึง 10 ล้านบาทในบางวัน เป็นเพราะนักลงทุนหันมาสนใจหุ้น BEC มองว่าผลการดำเนินงานได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้วในไตรมาส 2/2563 ที่ผ่านมา ที่มีผลขาดทุน 266 ล้านบาท รวมครึ่งปีขาดทุนทั้งสิ้น 541 ล้านบาท จึงเข้ามาซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์

นอกจากนี้ยังมีการติดต่อขอซื้อหุ้นล็อตใหญ่จากนักลงทุนรายใหญ่ แต่ไม่สำเร็จ เพราะราคาในปัจุบันยังต่ำกว่าต้นทุนของรายใหญ่ และมองว่ายังมีโอกาสปรับตัวขึ้นหลังบริษัทปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ มีการขายคอนเทนต์ออกไปตลาดต่างประทศมากขึ้น ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี  รวมถึงสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายมีการผ่อนคลายการล็อกดาวน์เพิ่มขึ้น ทำให้ธุรกิจเริ่มทำการตลาดมีการโฆษณามากขึ้น

ด้านโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ BEC ณ วันที่ 7 ก.ค. 2563 มีนาย ทวีฉัตร จุฬางกูร ถือหุ้นใหญ่ที่สุด จำนวน 285 ล้านหุ้น สัดส่วน 14.24% ตามด้วย น.ส. รัตนา มาลีนนท์ถือ 188 ล้านหุ้น หรือ 9.38% และน.ส. อัมพร มาลีนนท์ ถือ 136 ล้านหุ้น คิดเป็น 6.81% ของทุนเรียกชำระแล้ว

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)ออกบทวิเคราะห์ แนะ”เก็งกำไร”หุ้น BEC แนวโน้มผลงานครึ่งปีหลังของกลุ่มสื่อจะฟื้นตัวตามอุตสาหกรรมโฆษณา และราคาหุ้น BEC ยังฟื้นตัวช้ากว่าหุ้นบริษัทเวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ (WORK)

อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้น BEC ในปัจจุบันสูงกว่าราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่นักวิเคราะห์ให้ไว้ที่ 3.74 บาท คาดว่าปีนี้กำไรต่อหุ้นยังขาดทุน 0.32 บาท และนักวิเคราะห์ 3 ใน 5 ราย แนะนำให้”ขาย” คือ บล.เคทีบี(ประเทศไทย) ให้เป้าหมาย 3.66 บาท บล.กรุงศรี ประเมินมูลค่า 3.85 บาท บล.บัวหลวง ขณะที่บล.ยูโอบี เคย์เฮียน(ประเทศไทย) ให้ซื้อ เป้าหมายราคาสูงสุดถึง 5 บาท

ก่อนหน้านี้ นาง หทัยรัตน์ จุฬางกูร ได้เข้าซื้อ BEC เพิ่ม ส่งผลให้ถือหุ้นมากกว่า 5 %  เช่นเดียวกัน น.ส.รัตนา ซื้อเพิ่มจนมีหุ้นมากกว่า 10.0169% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ