ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นกว่า 2% โรงกลั่นหยุด-ลดผลิตพายุซัลลี่ถล่ม

HoonSmart.com>> ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นกว่า 2% “เบรนท์” กลับมายืนเหนือ 40 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล หลังแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐฯ หยุดดำเนินการ พายุเฮอร์ริเคนซัลลี่ถล่ม

บริษัท ไทยออยล์ (TOP) เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังพายุเฮอร์ริเคนซัลลี่ (Sally) ถล่มอ่าวเม็กซิโก ทำให้แท่นขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐฯต้องหยุดดำเนินการผลิตราว 0.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน นอกจากนั้นหลายโรงกลั่นในบริเวณดังกล่าวต้องหยุดหรือลดดำเนินการผลิตเช่นกัน อาทิเช่นโรงกลั่น Phillips 66 หยุดดำเนินการผลิต และโรงกลั่น Shell ดำเนินการผลิตในระดับต่ำสุด

ด้านสถาบันปิโตรเลียมสหรัฐฯ (API) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคลังสหรัฐฯ ณ สัปดาห์สิ้นสุด 11 ก.ย. 63 ปรับลด 9.5 ล้านบาร์เรล ซึ่งสวนทางกับนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล

สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันปี 2563 ลงราว 0.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ระดับ 91.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวค่อนข้างช้า และความกังวลการเกิดการแพร่ระบาดระลอกสองของโควิด-19 ซึ่งจะกดดันความต้องการใช้น้ำมันอีกครั้ง

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปิด 15 ก.ย. 63 อยู่ที่ 38.28 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล +1.02 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล หรือ 2.66% ส่วนเบรนท์ 40.53 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล +0.92 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล หรือ 2.27%

อ่านข่าว

ดาวโจนส์ปิดบวก 2 จุด จับตาเฟดประชุม