ดาวโจนส์ปิดลบ 135 จุด ว่างงานสูงเกินคาด สถานการณ์ตึงเครียดสหรัฐฯ-จีน

HoonSmart.com>> ดาวโจนส์ปิดลบ 135 จุด กังวลเศรษฐกิจ หลังตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานสูงกว่าคาด ด้านความสัมพันธ์จีนสหรัฐตึงเครียดมากขึ้น ตลาดหุ้นยุโรปร่วงยกแผง ราคาน้ำมันลดลง 1%

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 16 กรกฎาคม 2563 ที่ 26,734.71 จุด ลดลง 135.39 จุด หรือ 0.50% ท่ามกลางการรายงานผลการดำเนินไตรมาสสองของบริษัทจดทะเบียน นักลงทุนกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจจากการเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุด รวมทั้งการอ่อนตัวลงของตลาดหุ้นเอเชีย ตลอดจนความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับจีน

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,215.57 จุด ลดลง 10.99 จุด, -0.34%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,473.83 จุด ลดลง 76.66 จุด, -0.73%

ผลการดำเนินงานของธนาคารใหญ่ยังเป็นปัจจัยบวกของตลาด โดยมอร์แกนสแตนเล่ย์มีกำไรดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาด จากธุรกิจวาณิชธนกิจและค้าเงิน หุ้นมอร์แกนสแตนเล่ย์ เพิ่มขึ้น 2.51% ขณะที่แบงก์ออฟอเมริกาลดลงกว่า 2% แม้กำไรดีกว่าคาดเพราะตั้งสำรองหนี้ 4 พันล้านดอลลาร์ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19

ข้อมูลเศรษฐกิจที่เผยแพร่เมื่อวานมีทั้งบวกและลบ โดยกระทรวงแรงงานเผย การยื่นรับขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้วมีจำนวน 1.3 ล้านราย สูงกว่า 1.24 ล้านราย ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ซึ่งอาจเป็นสัญญานว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจชะลอตัว จากการที่หลายรัฐกลับมาล็อกดาวน์อีกรอบ

ขณะที่ยอดค้าปลีกในเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 7.5% สูงกว่า 5.4% ที่นักวิเคราะห์คาด ด้านสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) เผย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 14 จุด มาที่ระดับ 72 กลับไปที่ระดับเดิมก่อนการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในเดือนมีนาคม แต่สินค้าคงคลังเดือนพฤษภาคมลดลง 2.3% ตามคาด

ดัชนีการผลิตจากธนาคารกลางสาขาฟิลาเดลเฟีย (Philadelphia Federal Reserve Manufacturing Index) เดือนกรกฎาคมลดลงมาที่ระดับ 24.1 จาก 27.5 แต่ดีกว่า 20 ที่นักวิเคราะห์คาด

การลดลงของหุ้นเอเชียและหุ้นทั่วโลกตามตลาดหุ้นจีนจากข้อมูลค้าปลีกของจีนที่ต่ำกว่าคาด ก็มีผลต่อการซื้อขาย รวมไปถึงความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับจีนที่มีผลต่อจิตวิทยานักลงทุน หลังจากคณะบริหารของทรัมป์กำลังพิจารณาจะที่ห้ามสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนและครอบครัวเดินทางเข้าสหรัฐฯ และยังได้เปิดเผยในวันพุธว่าจะห้ามพนักงานของหัวเว่ย บริษัทเทคโนโลยีของจีนและบริษัทอื่นที่เห็นแล้วว่าช่วยรัฐบาลจีนในการฝ่าฝืนสิทธิมนุษยชน ขณะเดียวกันทางการจีนได้สั่งห้ามการเดินทางเข้าของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯบางรายซึ่งรวมถึงวุฒิสมาชิก มาร์โก รูบิโอและเท็ด ครูซ

ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับจีนกลบปัจจัยจากข้อมูลจีดีพีไตรมาสสองของจีนที่ขยายตัว 3.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งสูงกว่า 2% ที่นักวิเคราะห์คาดและฟื้นตัวจากที่ติดลบ 6.8% ในไตรมาสแรก

นักวิเคราะห์ระบุว่า จีนซึ่งเป็นประเทศแรกที่เจอการระบาดของไวรัสโควิด-19 และใช้มาตรการล็อกดาวน์แต่ก็ฟื้นตัวเร็วกว่าประเทศฝั่งตะวันตก แต่ยอดค้าปลีกล่าสุดของจีนก็เป็นสัญญานเตือนของสหรัฐฯและอังกฤษ นอกจากนี้จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยกดดันตลาด

หุ้นทวิตเตอร์ ลดลง 1.1% จากรายงานว่าบัญชีทวิตเตอร์ของผุ้บริหาร นักการเมืองและบุคคลผู้มีชื่อเสียงในสหรัฐฯ ถูกแฮกเกอร์เจาะเข้าระบบเพื่อพยายามที่จะโอนเงินคริปโตเคอเรนซี
หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เพิ่มขึ้น 0.67% หลังกำไรสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง นำโดยกลุ่มท่องเที่ยวและสันทนาการที่ลดลง 1.9% หลังจากที่ประชุมธนาคารกลางสหภาพยุโรป(European Central Bank)คงอัตราดอกเบี้ยและวงเงินในการซื้อพันธบัตรแต่ยังคงติดตามภาวะเศรษฐกิจยูโรโซน

ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรืออัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ไว้ที่ระดับ 0% รวมทั้งคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.50% และคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25% ตลอดจนคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามโครงการ Pandemic Emergency Purchase Programme (PEPP) ที่ระดับ 1.35 ล้านล้านยูโร

นักลงทุนจับจากการประชุมของผู้นำสมาชิกของสหภาพยุโรป (EU) 27 ประเทศ ในวันศุกร์นี้ เพื่อหาข้อสรุปการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจขนาด 75 พันล้านยูโร

นอกจากนี้ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับจีน ทำให้กังวลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 372.13 จุด ลดลง 1.74 จุด, +1.76%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,250.69 จุด ลดลง 41.96 จุด, -0.67%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,085.28 จุด ลดลง 23.69 จุด, -0.46%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,874.97 จุด ลดลง 56.01 จุด,-0.43%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนสิงหาคมลดลง 45 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 40.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกันยายนลดลง 42 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 43.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

อ่านข่าว

ราคาน้ำมันดิบร่วง OPEC+ เตรียมเพิ่มกำลังผลิตเดือนส.ค.