HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบกว่า 170 จุด วิตกไวรัสโควิด-19 ระบาดรอบสอง ด้านตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่บวก หุ้นเฮลธ์แคร์หนุน ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 17 มิถุนายน 2563 ที่ 26,119.61 จุด ลดลง 170.37 จุด หรือ 0.65% จากการปรับตัวลดลงของหุ้นที่จะได้รับผลดีจากการเปิดเศรษฐกิจ หลังจากข้อมูลผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจจะทำให้ต้องมีการล็อกดาวน์อีกครั้งจึงส่งผลกระทบต่อความคาดหวังของนักลงทุนต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามยังมีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,113.49 จุด ลดลง 11.25 จุด, -0.36%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,910.53 จุด เพิ่มขึ้น 14.66 จุด, +0.15%
หุ้นสายการบิน หุ้นเรือสำราญ และหุ้นค้าปลีก ซึ่งเป็นกลุ่มที่จะได้รับผลบวกจากการเปิดเศรษฐกิจปรับตัวลดลง โดยหุ้นยูไนเต็ดแอร์ไลน์ หุ้นเดลต้าแอร์ไลน์ต่างลดลงมากกว่า 1.8% หุ้นอเมริกันแอร์ไลน์ลดลง 0.3% หุ้นซีซาร์เอ็นเตอร์เทนเม้นท์เพิ่มขึ้น 2.98% หุ้นนอร์วีเจียนครูซไลน์เพิ่มขึ้น 4.80%
หุ้นนอร์เวย์เจียน ครูซ ไลน์ โฮลดิ้ง ลดลง 8.4% หลังประกาศขยายเวลาการระงับบริการเดินเรือออกไปจนถึงเดือนกันยายน หุ้นคาร์นิวัล คอร์ป ลดลง 6.5% หุ้นรอยัล คาริบเบียน ครูซ ลดลง 7.09%
หุ้นแก๊ปลดลง 5.4%
หุ้นแอมะซอนเพิ่มขึ้น 1% หุ้นเน็ตฟลิกซ์เพิ่มขึ้น 2.7% หุ้นแอปเปิลเพิ่มขึ้น 0.9%
นักลงทุนยังคงกังวลต่อการแพร่กระจายของไวรัสรอบใหม่ ซึ่งอาจจะทำให้รัฐบาลท้องถิ่นและรัฐบาลกลางต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง เพราะผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มสูงขึ้นทำสถิติใหม่ใน 6 รัฐโดยเฉพาะที่เท็กซัส เนวาดาที่จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลสูงมากเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ในกรุงปักกิ่งของจีนได้ออกคำสั่งจำกัดความเคลื่อนไหวของประชาชน ปิดโรงเรียนรวมทั้งได้ยกเลิกเที่ยวบินในประเทศเข้าออกปักกิ่งเพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสรอบใหม่
นอกจากนี้ยังนักลงทุนซึมซับถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลาง(เฟด) เมื่อวานนี้ ที่ว่า เฟดจะเข้าซื้อหุ้นกู้ของบริษัทต่างๆโดยตรง แทนการเข้าซื้อผ่านกองทุน ETFs ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ดีกว่าในการเสริมสภาพคล่อง และสนับสนุนการทำงานของตลาด และเฟดยังจะใช้เครื่องมือที่หลากหลายเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ตลอดจนอาจจะน่ากังวลอยู่บ้างหากสภาคองเกรสถอนตัวจากการสนับสนุนเร็วเกินไป
กระทรวงพาณิชย์เผย การเริ่มต้นสร้างบ้านเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 4.3% มาที่ระดับ 974,000 ยูนิต ส่วนการอนุญาตก่อสร้างฟื้นตัวและการยื่นขอสินเชื่อบ้านเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้วมาที่ระดับสูงสุดในรอบ 11.5 ปี
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นวันที่สอง นำโดยกลุ่มเฮลธ์แคร์ที่เพิ่มขึ้น 1.8% จากความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมทั้งของสหภาพยุโรปและของสหรัฐฯ และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกกลบปัจจัยลบจากการ ล็อกดาวน์ในกรุงปักกิ่งของจีนหลังจากมีการระบาดรอบ
นักลงทุนเกาะติดการประชุมของคณะมนตรียุโรปในปลายสัปดาห์นี้เพื่อพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมวงเงิน 750 พันล้านยูโร ซึ่งจะทำให้วงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจของสหภาพยุโรปมีจำนวนทั้งสิ้น 1 ล้านล้านยูโรช่วงปี 2021-2027
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,253.25 จุด เพิ่มขึ้น 10.46 จุด, +0.17%
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 363.02 จุด เพิ่มขึ้น 2.69 จุด, +0.74%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,995.97 จุด เพิ่มขึ้น 43.52 จุด, +0.88%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,382.14 จุด เพิ่มขึ้น 66.48 จุด, +0.54%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 42 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 37.96 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 25 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 40.71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
อ่านข่าว