ดาวโจนส์ปิดบวกกว่า 500 จุด จ้างงานเอกชนลด 2.76 ล้านตำแหน่งน้อยกว่าคาด

HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกกว่า 500 จุด จ้างงานเอกชนลด 2.76 ล้านตำแหน่งน้อยกว่าคาด ตลาดหุ้นยุโรปบวกยกแผง ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 3 มิถุนายน 2563 ที่ 26,269.89 จุด พุ่งขึ้น 527.24 จุด หรือ 2.05% จากข้อมูลเศรษฐกิจที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 น้อยกว่าที่คาด ขณะที่มองข้ามเหตุการณ์ประท้วงรุนแรงและความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับจีน

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,122.87 จุด เพิ่มขึ้น 42.05 จุด, +1.36%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,682.91 จุด เพิ่มขึ้น 74.54 จุด, +0.78%

ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เผย การจ้างงานของภาคเอกชนเดือนพฤษภาคมลดลง 2.76 ล้านตำแหน่งจากที่ลดลง 20.2 ล้านตำแหน่งในเดือนก่อนและต่ำกว่า 8.66 ล้านตำแหน่งที่นักวิเคราะห์คาด

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนรอตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรทางการเดือนพฤษภาคมจากกระทรวงแรงงานที่จะเผยแพร่ในวันพรุ่งนี้ และคาดว่าอัตราการว่างงานจะพุ่งไปที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 19.7%

สถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) เผย ดัชนีภาคบริการเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 45.4 ในสูงกว่า 44.7 ที่นักวิเคราะห์คาด

นักลงทุนมองข้ามเหตุการณ์ประท้วงที่ขยายวงไปในหลายเมือง แม้มีการประเมินว่าสถานการณ์การประท้วงในปีนี้จะเลวร้ายกว่าการประท้วงปี 1968 จากเหตุลอบสังหาร มาร์ติน ลูเธอร์ คิงส์ เพราะเศรษฐกิจปีนี้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 และคาดว่าจะติดลบ 5.8% แต่ในปี 1968 เศรษฐกิจขยายตัว 4.8%

นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวของเศรษกิจมากขึ้น จากการผ่อนคลายล็อกดาวน์ หลังจากเห็นตัวอย่างการประสบความสำเร็จของการเปิดเศรษฐกิจของจีน และอิตาลี

นอกจากนี้ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลาง(เฟด)ที่ได้ขยายการซื้อพันธบัตรที่ออกโดยเมืองหรือเขต โดยเฟดเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ทุกรัฐสามารถกำหนดเมืองหรือเทศบาล(County)อย่างน้อย 2 แห่งที่สามารถเข้าร่วมโครงการ Municipal Liquidity Facility รวมทั้งกำหนดตัวผู้ที่ออกพันธบัตรซึ่งมีรายได้จากขนส่งสาธารณะ สนามบิน ทางด่วน หรือกิจการอื่นของรัฐ และในช่วงแรกจำกัดเฉพาะเทศบาลที่มีประชากรอย่างน้อย 500,000 คนเมืองหรือเขตที่มีประชากรอย่างน้อย 250,000 คน

หุ้นกลุ่มธุรกิจเรือสำราญยังคงปรับตัวขึ้นจากความหวังเศรษฐกิจ โดย หุ้นนอร์เวย์เจียน ครูซ ไลน์ โฮลดิ้ง เพิ่มขึ้น 3.45% หุ้นรอยัล แคริบเบียน ครูซ เพิ่มขึ้น 3.82% หุ้นคาร์นิวัล คอร์ป เพิ่มขึ้น 2.25%

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยกลุ่มประกันภัยนำการปรับตัวขึ้นกว่า 6% จากความหวังว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวหลังการเปิดเศรษฐกิจของหลายประเทศ

ไอเอชมาร์กิตเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (Purchasing Managers’ Index: PMI) โดยรวมของยูโรโซนเดือนพฤษภาคมที่สะท้อนผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ดีขึ้นมาที่ 31.9 จาก 13.6 ในเดือนเมษายน ขณะเดียวกันได้รับแรงหนุนจาก ดัชนี PMI ภาคบริการของจีนเดือนพฤษภาคมที่เพิ่มขึ้นมาที่ 55.0 จาก 44.4 ในเดือนเมษายน จากการสำรวจของ Caixin/Markit

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,382.41 จุด เพิ่มขึ้น 162.27 จุด, +2.61%

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 368.92 จุด เพิ่มขึ้น 9.15 จุด, +2.54%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,022.38 จุด เพิ่มขึ้น 163.41 จุด,+3.36%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,487.36 จุด เพิ่มขึ้น 466.08 จุด, +3.88%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคมลดลง เพิ่มขึ้น 48 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 37.29 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 22 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 39.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล