ดาวโจนส์ปิดบวก 91 จุด หวังเศรษฐกิจฟื้นหลังคลายล็อกดาวน์

HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 91 จุด หวังเศรษฐกิจหลังคลายล็อกดาวน์ กลบปัจจัยลบการประท้วงรุนแรงในสหรัฐฯ ตลาดยังเกาะติดความตึงเครียดสหรัฐฯกับจีน ด้านตลาดหุ้นยุโรปบวกยกแผง ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดเล็กน้อย เบรนท์เพิ่มขึ้น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 1 มิถุนายน 2563 ที่ 25,475.02 จุด เพิ่มขึ้น 91.91 จุด หรือ 0.36% จากที่อ่อนตัวลงในช่วงแรกจากความหวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังจากการผ่อนคลายล็อกดาวน์ ซึ่งกลบปัจจัยลบที่เกิดจากการประท้วงรุนแรงในหลายรัฐจนต้องประกาศเคอร์ฟิว ขณะที่นักลงทุนยังเกาะติดความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับจีน รวมทั้งการควบคุมการแพร่ระบาดทั้งในสหรัฐฯและทั่วโลก

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,055.73 จุด เพิ่มขึ้น 11.42 จุด,+0.38%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,552.05 จุด เพิ่มขึ้น 62.18 จุด,+0.66%

นักลงทุนมองว่าภาวะเลวร้ายสุดของเศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของไวรัสได้ผ่านพ้นไปแล้ว และทั้ง 50 รัฐได้กลับมาเปิดเศรษฐกิจแล้ว และเหตุการณ์ประท้วงไม่มีผลต่อเศรษฐกิจโดยตรง แม้หลายรัฐได้ใช้หน่วยรักษาความปลอดภัยแห่งชาติเข้ามาจัดการกับผู้ประท้วง

ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) เผยผลสำรวจ ดัชนีภาคการผลิตของเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 43.1 จากระดับ 41.5 ในเดือนเมษายนซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปี

ไอเอชเอส มาร์กิต เผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 39.8 จาก 36.1 ในเดือนเมษายน

นักวิเคราะห์มองว่า แม้ระยะสั้นยังมีความไม่แน่นอน แต่มีสัญญานว่าเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวเป็นบวก

อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังจับตาความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับจีน หลังรัฐบาลจีนห้ามรัฐวิสาหกิจรายใหญ่ของจีนซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯทั้งถั่วเหลืองและเนื้อหมู เพราะเกรงว่าจะมีผลต่อข้อตกลงการค้าของทั้งสองประเทศที่ทำไว้ในต้นปี

กระทรวงพาณิชย์เผย การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนเมษายนลดลง 2.9% จากเดือนก่อน ปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2009

หุ้นที่ได้รับผลดีจากการเปิดเศรษฐกิจปรับตัวขึ้น โดยหุ้นยูไนเต็ดแอร์ไลน์ หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ หุ้นอเมริกันแอร์ไลน์ต่างเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 3.8% หุ้นเรือสำราญทั้งคาร์นิวาล และโรยัลแคริบเบียนเพิ่มขึ้น 6.73% และ 7.27% ตามลำดับ

หุ้นไฟเซอร์ลดลง 7.14% หลังประกาศหยุดการทดลองยารักษามะเร็งเต้านม เพราะยาไม่มีประสิทธิผลในการรักษา

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากการผ่อนคลายล็อกดาวน์ของหลายประเทศในยุโรปลดลง แม้หลายตลาดปิดทำการ ขณะที่ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับจีนยังไม่มีสัญญานรุนแรง หลังการแถลงข่าวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในวันศุกร์หลังตลาดปิดไม่ได้มีมาตรการเพิ่มเติมในการจัดการกับจีน

ตลาดได้รับแรงหนุนจากข้อมูลภาคการเศรษฐกิจที่ดีขึ้น โดยไอเอชเอส มาร์กิต เผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 39.4 จากระดับต่ำสุด 33.4 ในเดือนเมษายน

ดัชนี PMI ในเยอรมนีอยู่ที่ 39.5 ต่ำสุดในยุโรป ส่วนดัชนี PMI ของอังกฤษหดตัวตามคาดที่ 40.7

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,166.42 จุด เพิ่มขึ้น 89.82 จุด, +1.48%

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 354.20 จุด เพิ่มขึ้น 3.84 จุด, +1.10%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ ,762.78 จุด เพิ่มขึ้น 67.35 จุด, +1.43%

ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดทำการ

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคมลดลง 5 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 35.44 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 48 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 38.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

อ่านข่าว

น้ำมันดิบเพิ่มขึ้นใกล้บรรลุข้อตกลงขยายเวลาลดกำลังผลิต