ดาวโจนส์ปิดลบ 10 จุด ทรัมป์แถลงไม่กระทบการค้ากับจีน

HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 10 จุด ทรัมป์แถลงไม่กระทบการค้ากับจีน ด้านตลาดหุ้นยุโรปร่วงยกแผง ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 29 พฤษภาคม 2563 ที่ 25,383.11 จุด ลดลง 17.53 จุด หรือ 0.07% ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนตลอดทั้งวัน จากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับจีนที่มากขึ้น แต่นักลงทุนคลายความกังวลหลังจากการแถลงข่าวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ไม่มีด้านใดที่จะกระทบต่อการค้าและการเงินอย่างที่คาดไว้

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,044.31 จุด เพิ่มขึ้น 14.58 จุด, +0.48%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,489.87 จุด เพิ่มขึ้น 120.88 จุด, +1.29%

ในช่วงแรกตลาดปรับตัวลดลงก่อนการแถลงข่าวของประธานาธิบดีทรัมป์หลังรายงานของบลูมเบิร์กว่าสหรัฐจะไม่ถอนตัวจากข้อตกลงการค้ากับจีน แต่ได้ปรับตัวขึ้นหลังการแถลงข่าวเสร็จสิ้นประธานาธิบดีทรัมป์ ไม่ได้ระบุถึงการใช้มาตรการทางภาษีรวมทั้งไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงข้อตกลงการค้าระยะแรกที่ทำไว้กับจีน แม้ประกาศหลายมาตรการที่จะจัดการกับจีน แต่ก็ไม่ได้เป็นมาตรการโดยตรง

โดยประธานาธิบดีทรัมป์ระบุว่าได้เริ่มกระบวนการยกเลิกสถานะพิเศษทางการค้าของฮ่องกง และจะแยกวิธีปฏิบัติด้านบัญชีกับบริษัทจีนที่จดทะเบียนในสหรัฐฯรวมทั้งได้ห้ามการเดินทางเข้าสหรัฐฯของชาวจีนบางราย ทั้งนี้เป็นการเพื่อตอบโต้จีนที่บังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่กับฮ่องกง

นอกจากนี้ประธานาธิบดีทรัมป์ยังได้ตัดความสัมพันธ์กับองค์การอนามัยโลกเพราะปล่อยให้จีนเข้ามาควบคุมในการจัดการกับภาวะสาธารณสุขฉุกเฉิน

นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางเปิดเผยผ่านเว็บคาสต์ที่จัดโดยมหาวิทยาลัยพรินซ์ตันว่า เฟดจะใช้เครื่องมือต่างๆ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และใกล้จะปล่อยกู้แก่ธุรกิจขนาดกลางแล้วท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

กระทรวงพาณิชย์เผย การใช้จ่ายส่วนบุคคลของผู้บริโภคสหรัฐเดือนเมษายนลดลง 13.6% เป็นการลดลงมากที่สุดตั้งแต่เริ่มมีการเก็บข้อมูลในปี 1959 และลดลงจาก 6.9% เดือนมีนาคม ขณะที่อัตราการออมของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นมากเป็นประวัติการณ์ที่ 33% ในเดือนเมษายน ตั้งแต่มีการเก็บข้อมูลในทศวรรษ 1960
ส่วนดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคHoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 10 จุด ทรัมป์แถลงไม่กระทบการค้ากับจีน ด้านตลาดหุ้นยุโรปร่วงยกแผง ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นคล (PCE) เดือนเมษายนลดลง 0.5% จากเดือนก่อน เป็นการลดลงมากที่สุดในรอบกว่า 5 ปี ดัชนี PCE พื้นฐาน ไม่รวมอาหารและพลังงานเดือนเมษายน ลดลง 0.4% ลดลงมากที่สุดตั้งแต่เดือนกันยายน 2001

มหาวิทยาลัยมิชิแกนเผย ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 72.3 จากระดับ 71.8 ในเดือนเมษายน

หุ้นเดลล์ เทคโนโลยีส์เพิ่มขึ้น 8.90% หลังประกาศว่าการระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลดีต่อบางธุรกิจ หุ้นซิสโก้ ซิสเต็มส์ อิงค์เพิ่มขึ้น 4.88% หลังประกาศจะซื้อกิจการ ThousandEyes มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์

หุ้นโซเชียลมีเดียยังปรับตัวลดลงหลัง ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งพิเศษซึ่งจะมีผลกระทบต่อบริษัทโซเชียลมีเดีย โดยหุ้นทวิตเตอร์ ลดลง 1.99% หุ้นเฟซบุ๊ก ลดลง 0.16%

หุ้นพลังงานปรับตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบพุ่งกว่า 80% โดยหุ้นเชฟรอนเพิ่มขึ้น 0.91% หุ้นเอ็กซอนโมบิลเพิ่มขึ้น 1.0%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 1.78 ดอลลาร์ หรือ 5.3% ปิดที่ 35.49 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 88.4% ในเดือนพฤษภาคม เป็นการเพิ่มขึ้นรายเดือนมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1983 ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 4 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 35.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 39.8% ในเดือนพฤษภาคม เป็นการเพิ่มขึ้นรายเดือนมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 1999

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง จากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับจีนที่สูงขึ้น ก่อนการแถลงข่าวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่จะมีขึ้นหลังตลาดปิด และนักลงทุนวิตกว่าจะมีผลกระทบต่อข้อตกลงการค้าระยะแรกของสหรัฐฯกับจีน แม้หลายประเทศในยุโรปทะยอยผ่อนคลายล็อกดาวน์

ฝรั่งเศสกำลังจะผ่อนปรนระยะที่ 2 โดยจะอนุญาตให้ร้านอาหาร บาร์และร้านกาแฟเปิดให้บริการในวันที่ 2 มิถุนายน ส่วนที่อังกฤษจะอนุญาตให้รวมตัวในสวนและสวนสาธารณะได้ไม่เกิน 6 คนและไม่จำกัดว่าเป็นคนในครอบครัวเดียวกันในวันที่ 1 มิถุนายน แต่ยังรักษาระยะห่าง 2 เมตร

ในสัปดาห์หน้าสหภาพยุโรปจะเริ่มการเจรจาBrexit กับอังกฤษ

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,076.60 จุด ลดลง 142.19 จุด, -2.29%

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 350.36 จุด ลดลง 5.11 จุด, -1.44%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,695.44 จุด ลดลง 75.95 จุด, -1.59%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,586.85 จุด ลดลง 194.28 จุด , -1.65%