เศรษฐกิจเดือนเม.ย.หดตัวสูงขึ้น ได้ภาครัฐช่วยพยุง

HoonSmart.com>>ธนาคารแห่งประเทศไทยเผยเดือนเม.ย.กิจกรรมทางเศรษฐกิจหดตัวเกือบทุกด้าน ยกเว้นการใช้จ่ายประจำ-การลงทุนภาครัฐ  การลงทุนเอกชนหดตัว จากอุปสงค์ลดลง กำลังการผลิตเหลืออยู่มาก  นักท่องเที่ยวเท่ากับศูนย์ 

นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจในเดือนเมษายน 2563 หดตัวสูงขึ้น จากผลของมาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ที่เข้มงวดทั้งในและต่างประเทศ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในหลายภาคส่วนต้องหยุดลงชั่วคราว โดยภาคการท่องเที่ยวหดตัวสูงจากการห้ามเดินทางเข้าประเทศไทย การส่งออกสินค้าไม่รวมทองคำหดตัวสูงขึ้นมากตามอุปสงค์ของประเทศคู่ค้า เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนหดตัวสูงตามกำลังซื้อที่อ่อนแอลงมาก และมาตรการควบคุมโรคระบาดขณะที่เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชน และการผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัวสูงต่อเนื่องตามภาวะอุปสงค์และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายภาครัฐขยายตัวต่อเนื่องทั้งรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุน หลังจากเริ่มมีการทยอยจ่ายเงินเยียวยาให้ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ซึ่งจะช่วยพยุงเศรษฐกิจในระยะต่อไป

ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบมากขึ้น ในหมวดพลังงานตามราคาน้ำมันในตลาดโลกและมาตรการลดค่าไฟฟ้า ส่วนตลาดแรงงานเปราะบางขึ้นมาก ด้านดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุล ส่วนดุลบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้ายเกินดุลสุทธิจากด้านสินทรัพย์เป็นสำคัญ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศหดตัว 100%  โดยเป็นผลจากการห้ามเดินทางเข้าประเทศของไทย ซึ่งส่งผลกระทบมากต่อธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมและภัตตาคาร และธุรกิจขนส่งผู้โดยสาร

ด้านมูลค่าการส่งออกสินค้าหดตัว 3.3% จากระยะเดียวกันปีก่อน หากไม่รวมการส่งออกทองคำ ที่มีมูลค่าสูงเป็นประวัติการณ์ มูลค่าการส่งออกหดตัวสูงที่ 15.9% เป็นการหดตัวสูงในหมวดยานยนต์และชิ้นส่วน สินค้ากลุ่มที่มูลค่าเคลื่อนไหวตามราคาน้ำมันดิบ เครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องจักรและอุปกรณ์ แต่สินค้าบางหมวดยังขยายตัวได้ อาทิ อิเล็กทรอนิกส์ สินค้าเกษตรแปรรูป และสินค้าเกษตร เนื่องจากได้รับผลดีจากสถานการณ์โควิด-19

เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนหดตัวสูง จากกำลังซื้อภาคครัวเรือนที่อ่อนแอลงมาก ทั้งด้านการจ้างงาน รายได้ และความเชื่อมั่น ประกอบกับเป็นผลจากการเลื่อนวันหยุดช่วงเทศกาลสงกรานต์และมาตรการปิดเมืองของไทย  เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนหดตัวสูงต่อเนื่อง นอกจากอุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศที่อ่อนแอลงส่งผลให้ผลประกอบการและความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจลดลงมาก ภาคธุรกิจยังมีกำลังการผลิตส่วนเกินเหลืออยู่มากจึงชะลอการลงทุนออกไป

มูลค่าการนำเข้าสินค้าหดตัวสูงที่ 17.0% หากไม่รวมการนำเข้าทองคำ มูลค่าการนำเข้าหดตัวที่ 13.8% โดยเป็นการหดตัวในทุกหมวดสินค้าสำคัญ  การใช้จ่ายภาครัฐที่ไม่รวมเงินโอนขยายตัวต่อเนื่องจากระยะเดียวกันปีก่อน ทั้งรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุน โดยรายจ่ายประจำขยายตัวตามการเบิกจ่ายเพื่อซื้อสินค้าและบริการ โดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ขณะที่รายจ่ายลงทุนขยายตัวจากการเบิกจ่ายทั้งในส่วนของรัฐบาลกลางและรัฐวิสาหกิจ

ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจโดยรวมยังอยู่ในเกณฑ์ดี แม้จะมีความเปราะบางมากขึ้น อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังคงเป็นบวกแต่ปรับลดลงต่อเนื่องสอดคล้องกับทิศทางของอุปสงค์ในประเทศ ด้านตลาดแรงงานเปราะบางขึ้น สะท้อนจากจำนวนผู้ขอรับสิทธิ์ว่างงานในระบบประกันสังคมที่เพิ่มขึ้นมาก สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลตามดุลรายได้จากการจ่ายเงินปันผลของภาคธุรกิจเป็นสำคัญ ประกอบกับรายรับจากการท่องเที่ยวลดลงมาก ส่วนดุลบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้ายเกินดุลสุทธิจากด้านสินทรัพย์เป็นสำคัญ