ดาวโจนส์ปิดบวกกว่า 130 จุด ขานรับผ่อนคลายล็อกดาวน์

HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกกว่า 130 จุด ขานรับผ่อนคลายล็อกดาวน์ในสหรัฐและยุโรป ด้านตลาดหุ้นยุโรปบวกยกแผง ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 5 พฤษภาคม 2563 ที่ 23,883.09 จุด เพิ่มขึ้น 133.33 จุด หรือ 0.56% อ่อนตัวลงจากจุดสูงสุดของวัน แต่ปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่สองจากการทะยอยผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในสหรัฐฯและยุโรป รวมทั้งขานรับความคืบหน้าของการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ที่จะช่วยควบคุมการระบาด

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,868.44 จุด เพิ่มขึ้น 25.70 จุด,+0.90%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,809.12 จุด เพิ่มขึ้น 98.41 จุด, +1.13%

ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง หลังจากบริษัทผู้ผลิตน้ำมันเริ่มลดกำลังการผลิตลงและความต้องการเริ่มขยับตัวเพิ่มขึ้น

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 4.17 ดอลลาร์ หรือ 20.5% ปิดที่ 24.56 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 3.77 ดอลลาร์ หรือ 13.9% ปิดที่ 30.97 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

นายเกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียกล่าวว่า จะให้ร้านเสื้อผ้าและร้าค้าปลีกเปิดบริการอีกครั้งในวันศุกร์นี้ ส่วนนายแอนดรูว์ คูโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก กล่าวว่า จะค่อยๆเปิดเศรษฐกิจและย้ำว่านิวยอร์กต้องการความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลาง ขณะที่หลายๆรัฐได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์

นอกจากนี้ยังขานรับรายงานข่าวที่นักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยนิวยอร์กและโรงเรียนแพทย์แห่งมหาวิทยาลัยแมรี่แลนด์เริ่มทดลองฉีดวัคซีนที่พัฒนาโดยบริษัทไฟเซอร์และบริษัทไบโอแอนด์เท็คจากเยอรมนีให้กับคนที่สมัครใจเข้ารับการทดลอง 4 คน

อย่างไรก็ตามตลาดอ่อนตัวจากระดับสูงสุดหลังนายริชาร์ด คลาริดา รองประธานธนาคารกลาง(เฟด) ให้ความเห็นว่า เศรษฐกิจยังต้องได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอีกมาก ขณะที่นายเจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์กล่าวว่า การดำเนินการของเฟดยังเปรียบเสมือนการทดลอง และอัตราการว่างงานอาจจะสูงกว่า 20% เล็กน้อย และอัตราดอกเบี้ยจะยังคงอยู่ในระดับใกล้ 0% ไปอีกหลายปี

นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโกกล่าวว่า ถ่าจะประเมินว่าเศรษฐกิจจะกลับมาเติบโตในไตรมาสอสง แต่ต้องเตรียมรับผลในทางลบไว้ด้วย

ดุลการค้าเดือนมีนาคมขาดดุลเพิ่มขึ้น 12% จาก 39.8 พันล้านดอลลาร์เป็น 44.4 พันล้านดอลลาร์เป็นผลจากการระงับเที่ยวบินระหว่างประเทศ ที่กรพทบต่อการท่องเที่ยวทั่วโลกและการค้าชะงักเช่น รถยนต์และไอโฟน การส่งออกสหรัฐหดตัว 9.6% การนำเข้าลดลง 6.2% จึงทำให้ขาดดุลการค้ามากที่สุดของเดือนนับตั้งแต่มีการบันทึกการส่งออก

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนเมษายนลดลงมาที่ระดับ 26.7 ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ จากระดับ 39.8 ในเดือนมีนาคม และหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3

หุ้นไฟเซอร์เพิ่มขึ้น 2.37% หุ้นแอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส พุ่งเพิ่มขึ้น 3.57%

หุ้นวอลต์ดิสนีย์ลดลง 2.05% หลังกำไรลดลงมากกว่า 90% เป็นผลจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะที่บริษัทประกาศจะเปิดสวนสนุกดิสนีย์ที่เซี่ยงไฮ้ในวันที่ 11 พฤษภาคม

หุ้นแมทเทล บริษัทผลิตของเล่นลดลงมากกว่า 9% จากผลขาดทุนต่อหุ้น

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก จากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในหลายประเทศ ทำให้คาดหวังว่าการระบาดของไวรัสโควิด-19 อาจจะแตะระดับสูงุดในสหรัฐฯและศูนย์กลางการระบาดในยุโรป แม้ศาลสูงเยอรมนีตัดสินว่าการดำเนินการของธนาคารกลางเยอรมนีในการเข้าร่วมโครงการซื้อพันธบัตรภายใต้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหภาพยุโรปขัดต่อรัฐธรรมนูญและต้องยุติการดำเนินการ

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,849.42 จุด เพิ่มขึ้น 95.64 จุด, +1.66%

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 335.5 จุด เพิ่มขึ้น 7.06 จุด, +2.15%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,483.13 จุด เพิ่มขึ้น 104.90 จุด,+2.40%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,729.46 จุด เพิ่มขึ้น 262.66 จุด, +2.51%