HoonSmart.com>> “บอร์ดณุศาศิริ” เคาะเพิ่มทุน 2,000 ล้านหุ้น ขายนักลงทุนต่างชาติ นักธุรกิจชาวจีน ราคา 0.50 บาทต่อหุ้น นำเงิน 1,000 ล้านบาท เพิ่มสภาพคล่อง พัฒนาธุรกิจด้านสุขภาพและชำระหนี้
บริษัท ณุศาศิริ (NUSA) เปิดเผยมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 24 เม.ย.2563 อนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 เพื่อพิจารณาอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจำนวน 2,000 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนหลังลดทุนจำนวน 7,641,082,611 บาท เป็นทุนใหม่ 9,641,082,611 บาท โดยการอออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 2,000 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท รวม 9,641,082,611 บาท เสนอขายบุคคลในวงจำกัด ได้แก่ Plural Capital Limited. จำนวน 1,500 ล้านหุ้น และ Mr.Uwern SAF FUNG จำนวน 500 ล้านหุ้น คาดว่าจะเพิ่มทุนแล้วเสร็จภายในเดือนก.ค.2563
สำหรับ Plural Capital Limited. มีผู้ถือหุ้นหลักคือ Mr.Liu Zhongkuo ซึ่งเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นหลัก 85% ของ Holistic Asset Finance Group Company Limited (HAFG) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาด NASDAQ ในสหรัฐฯ ดำเนินธุรกิจในรูปแบบกองทุนจัดการสินทรัพย์แบบองค์รวมมีวิธีการลงทุนโดยการควบรมและซื้อกิจการ
ส่วน Mr.Uwern SAF FUNG เป็นนักธุรกิจชาวจีน เจ้าของโรงงานและร้านค้าอัญมณีและร้านอาหารในเมืองกวางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งปัจจุบัน Mr.Uwern SAF FUNG เป็นกรรมการและผู้ถือหุ้น 7.14% ใน Panacee Medical Hongkonk Limited ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ NUSA ในประเทศฮ่องกง
ทั้งนี้ หลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนนักลงทุนทั้งสองรายจะถือหุ้นคิดเป็น 26.16% ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมด
สำหรับวัตถุประสงค์ในการเพิ่มทุนขายพี/พี เนื่องจากปัจจุบันบริษัทฯ มีแนวโน้มการขยายธุรกิจด้านสุขภาพและเทคโนโลยีเกี่ยวกับนวัตกรรมทางการแพทย์ใหม่ๆ จึงมีความจำเป็นต้องจัดหาแหล่งเงินทุน บริษัทฯ จึงได้ออกหุ้นเพิ่มทุนเพื่อเพิ่มสภาพคล่องและเงินทุนหมุนเวัยนในการดำเนินธุรกิจของบริษัทและบริษัทย่อย รวมทั้งช่วยเสริมให้บริษัทฯ มีฐานเงินทุนที่เข้มแข็งขึ้น เพื่อสร้างความพร้อมสำหรับการลงทุนในอนาคตและเพื่อลดภาระหนี้สินที่มีต้นทุนด้วย อีกทั้งยังได้นำศักยภาพของผู้ลงทุนมาสนับสนุนและส่งเสริมแผนการตลาดของบริษัททางด้านสุขภาพและเทคโนโลยีเกี่ยวกับนวัตกรรมทางการแพทย์
สำหรับแผนการใช้เงินเพิ่มทุนจำนวน 1,000 ล้านบาท ภายในปี 2563-2564 แบ่งเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานจำนวน 200 ล้านบาท ใช้พัฒนาธุรกิจด้านสุขภาพและเทคโนโลยีจำนวน 400 ล้านบาทและลดภาระหนี้สินที่มีต้นทุนจำนวน 400 ล้านบาท
คณะกรรมการบริษัทฯ เห็นว่าบริษัทฯ จำเป็นต้องเพิ่มทุนเพื่อเสริมความแข็งแกร่งทางด้านการเงินในระยะยาวและหานักลงทุนที่จะสนับสนุนบริษัทในการขยายธุรกิจใหม่ รวมทั้งเสริมสภาพคล่องเงินทุนหมุนเวียนและลดภาระหนี้สินที่มีต้นทุน ซึ่งด้วยภาวะการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) ในปัจจุบัน ทำให้บริษัทฯ เกิดปัญหาสภาพคล่องและเงินทุนหมุนเวียน ขณะที่การเสนอขายบุคคลในวงจำกัดโดยตรงทำให้ได้รับเงินทุนจามจำนวนที่ต้องการและระดมทุนได้ในระยะเวลาอันสั้น
