ดาวโจนส์ปิดบวก 260 จุด ทรัมป์ลงนามมาตรการเยียวยา

HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 260 จุด “ทรัมป์” ลงนามมาตรการเยียวยาผลกระทบ COVID-19 ราคาน้ำมันดิบขยับขึ้นต่อเนื่อง ด้านตลาดหุ้นยุโรปรับตัวลดลง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 24เมษายน 2563 ที่ 23,775.27 จุด เพิ่มขึ้น 260.01 จุด หรือ 1.11% จากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มการเงิน ท่ามกลางการเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจ การรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนและมาตรการเยียวยาผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะที่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,836.74 จุด เพิ่มขึ้น 38.94 จุด, +1.39%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,634.52 จุด เพิ่มขึ้น 139.77 จุด, +1.65%

บริษัทจดทะเบียนทยอยแจ้งผลการดำเนินงานที่มีทั้งดีกว่าคาดและต่ำกว่าคาด อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์ประเมินว่ากำไรไตรมาสแรกของบริษัทในดัชนี S&P 500 จะลดลง 15% โดยกำไรของกลุ่มพลังงานจะลดลงมากกว่า 60% และวิตกว่าจะมีการผิดนัดชำระหนี้ มีการปลดพนักงานและอาจจะล้มละลาย

นักลงทุนยังคงเกาะติดการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังจากที่บางรัฐได้เตรียมที่จะผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ โดยรัฐจอร์เจียเป็นรัฐแรกที่เริ่มให้ร้านค้าขนาดเล็กกลับมาเปิดให้บริการ แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขไม่เห็นด้วย

ตลาดได้รับแรงหนุนจากการลงนามในมาตรการเยียวยาชุดใหม่วงเงิน 484 พันล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งมาตรการนี้ครอบคลุมการช่วยเหลือธุรกิจขนาดเล็กภายใต้โครงการ Paycheck Protection Plan รวมทั้งวงเงิน 320 พันล้านดอลลาร์ช่วยเหลือธุรกิจขนาดเล็ก วงเงิน 75 พันล้านดอลลาร์สหรัฐโรงพยาบาล วงเงิน 25 พันล้านดอลลาร์เพื่อการทดสอบไวรัส และ 60 พันล้านดอลลาร์สำหรับโครงการเงินกู้ให้ธุรกิจขนาดเล็ก (Small Business Administration’s Economic Injury Disaster Loan program)

อย่างไรก็ตามการปรับตัวขึ้นได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจโดยกระทรวงพาณิชย์เผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมีนาคม ซึ่งรวม เครื่องบินรถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ลดลลง 14.4% จากที่เพิ่มขึ้น 1.2% ในเดือนกุมภาพันธ์ เป็นผลจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐานไม่รวมเครื่องบิน และสินค้าด้านอาวุธ ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้แผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 0.1% จากที่ลดลง 0.8% ในเดือนกุมภาพันธ์

มหาวิทยาลัยมิชิแกนเผยผลสำรวจ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนเมษายนลดลงมาที่ระดับ 71.8 จากระดับ 89.1 ในเดือนมีนาคม ซึ่งลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 นักวิเคราะห์ระบุว่าเป็นรูปแบบเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นหลังวิกฤติการเงินปี 2008

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 44 เซนต์ หรือ 2.7% ปิดที่ 16.94 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 11 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 21.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

หุ้นแอปเปิล เพิ่มขึ้น 2.89% หุ้นไมโครซอฟท์ เพิ่มขึ้น 1.83% ก่อนแจ้งผลดำเนินงานไตรมาสแรกในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะแสดงให้เห็นว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างไรกับธุรกิจทั่วโลกของบริษัท

หุ้นเฟซบุ๊กเพิ่มขึ้น 2.7% หลังเปิดตัววิดีโอแชทที่นับว่าเป็นคู่แข่งกับ ซูม วิดีโอ คอมมิวนิเคชั่นส์ อิงค์ หุ้นซูมลดลง 6.1% หุ้นเวอร์ไรซอน คอมมิวนิเคชั่นส์เพิ่มขึ้น 0.6% จากกำไรดีกว่าคาด หุ้นอินเทลเพิ่มขึ้น 0.4% หลังกำไรและรายได้ดีกว่าคาด แต่คาดแนวโน้มกำไรไตรมาสสองลดลง และจากรายงานข่าวแอปเปิลจะพัฒนาชิปของตัวเองแทนที่จะใช้ชิปของอินเทล

หุ้นอเมริกันเอ็กเพรสเพิ่มขึ้น 0.9% หลังรายงานกำไรไตรมาสแรกดีกว่าคาด แต่รายได้ลดลง

หุ้นเจซี เพนนีลดลง 1.13% จากรายงานข่าวว่ากำลังหารือเพื่อล้มละลายทางการเงิน

หุ้นโบอิ้ง ร่วงลง 6.4% หลังมีรายงานว่า การพิจารณาให้นำเครื่องบินรุ่น 737 Max กลับมาบินอาจจะล่าช้าไปถึงปลายฤดูร้อนหรือต้นฤดูใบไม้ร่วง

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ โดยกลุ่มเดินทางและสันทนาการลดลงมากที่สุดมากกว่า 3% หลังจากไฟแนนเซียลไทมส์นรายงานข่าวด้วยการอ้างเอกสารทดสอบยาเอกสารที่เผยแพร่ในเว็บไซต์องค์การอนามัยโลก(World Health Organization) ว่า ยา remdesivir ของบริษัทกิลเลียดซายนส์ ไม่ได้ทำให้ผู้ป่วยโรคโควิด-19 อาการดีขึ้น ทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการรักษา

ตลาดได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจหลังจากยอดค้าปลีกในอังกฤษเดือนมีนาคมลดลง 5.1% เป็นการลดลงอย่างรวดเร็วและมากที่สุดของเดือนในรอบ 30 ปี จากมาตรการล็อกดาวน์ที่เริ่มใช้วันที่ 23 มีนาคม

ในเยอรมนีสถาบัน IFO เผยความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือนเมษายนลดลงมาที่ 74.3 จาก 85.9 ในเดือนมีนาคม และเป็นการลดลงมากที่สุดของเดือนมาที่ระดับต่ำสุด

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,752.23 จุด ลดลง 74.38 จุด, -1.28%

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 329.59 จุด ลดลง 3.65 จุด, -1.10%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,393.32 จุด ลดลง 57.68 จุด,-1.30%,

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,336.09 จุด ลดลง 177.70 จุด, -1.69%

นักลงทุนยังเกาะติดการรายงงานผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียน โดยหุ้นเนสท์เล่เพิ่มขึ้น 2% จากกำไรไตรมาสแรกดีกว่าคาดโดยยอดขายเพิ่มขึ้น 4.3% เพราะประชาชาพากันตุนอาหารรับมือกับการล็อกดาวน์

หุ้นซาโนฟี บริษัทยาฝรั่งเศสเพิ่มขึ้น 3% หลังยืนยันคาดการณ์แนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2020