IMF ปรับลดคาดการณ์ GDP โลกปี 63 ติดลบ 3%

HoonSmart.com>> IMF ปรับลดคาดการณ์ GDP โลกปี 63 ติดลบ 3% จากเดิมโต 3.3% ชี้รุนแรงกว่าซัพบไพร์มและต่ำสุดตั้งแต่ Great Depression

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดประมาณการการเติบโตเศรษฐกิจโลก (GDP) โลกปี 2563 ติดลบ 3% จากเดิม +3.3% ซึ่งเศรษฐกิจโลกประสบกับวิกฤตการเงินที่รุนแรงกว่าครั้งวิกฤตซับไพรม์ปี 2551 และต่ำที่สุดนับตั้งแต่ Great Depression โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

บริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส (ASPS) ระบุว่า กองทุน IMF ปรับลด GDP Growth โลกปี 2563 ลงเป็น -3% yoy จากเดิมรอบ ก.พ. 2563 คาด 3.2% และปี 2564 กลับมาขยายตัว 5.8% ภายใต้สมมติฐานสำคัญคือ การระบาดของไวรัส COVID-19 จะคลี่คลายลงในช่วง 2Q63 และมาตรการควบคุมการระบาดต่างๆจะเริ่มค่อยผ่อนคลายลง

ASPS ตั้งข้อสังเกตุเห็นประเด็นสำคัญจากการรายงาน IMF ดังนี้ คือ

World GDP ปี 2563 ถือว่าติดลบมากที่สุดนับตั้งแต่ (นับเป็นการขยายตัวต่ำที่สุดตั้งแต่ปี 2473 ที่เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (Great Depression) เหตุการณ์เศรษฐกิจตกต่ำภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 1

ทุกประเทศ IMF ปรับลด GDP ปี 2563 ลงแรงเมื่อเทียบจากคาดการณ์รอบที่แล้ว ก.พ. 63 และประเทศทั้งหมดราว 73% GDP ปี 2563 GDP พลิกกลับมาติดลบ(-) ขณะที่ประเทศที่เหลืออีก 27% GDP ปี 2563 ยังขยายตัว(+)

เศรษฐกิจปี 2563 ฝั่งประเทศพัฒนาแล้ว GDP ติดลบมากกว่า ฝั่งประเทศกำลังพัฒนา เนื่องจากฝั่งประเทศกำลังพัฒนา ประเทศที่ปีนี้ยังขยายตัวได้ คือหลักๆ คือ จีนยังขยายตัว 1.2% อินเดีย + 1.9% และกลุ่มประเทศ TIPS อาทิ อินโดนีเซีย +0.5%, ฟิลิปปินส์ +0.6%

หากเทียบเฉพาะในประเทศกลุ่ม พบว่า IMF ประเมินเศรษฐกิจปี 2563 ไทย เป็นประเทศที่ติดลบมากที่สุด เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในกลุ่ม ,อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์คาดขยายตัว + ได้ เนื่องจากโครงสร้างเศรษฐกิจไทยมีการพึ่งส่งออก และท่องเที่ยวในสัดส่วนรวมกันเกิน 70%ของ GDP สูงกว่าเพื่อนบ้านรวมถึงไทยปีนี้เผชิญภัยแล้งหนักสุดในรอบ 40 ปี กระทบการบริโภคครัวเรือนสัดส่วนราว 50% ของ GDP

ปี 2564 จะเป็นปีที่ทั่วโลกจะพลิกกลับมาขยายตัวแรงอีกครั้ง จากฐานที่ต่ำในปี 2563