HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกกว่า 200 จุด เฟดอัดเงินช่วยเหลือเพิ่ม 2.3 ล้านล้านดอลลาร์ ตลาดหุ้นยุโรปบวก ราคาน้ำมันร่วง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 9 เมษายน 2563 ที่ 23,719.37 จุด เพิ่มขึ้น 285.80 จุด หรือ 1.22% หลังธนาคารกลาง(เฟด)ประกาศมาตรการเยียวยาผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 เพิ่มเติมวงเงิน 2.3 ล้านล้านดอลลาร์
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,789.82 จุด เพิ่มขึ้น 39.84 จุด, +1.45%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,153.58 จุด เพิ่มขึ้น 62.67 จุด, +0.77%
เมื่อวานนี้เฟดออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อเยียวยาเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส โดยมีเป้าหมายช่วยรัฐบาลท้องถิ่นและธุรกิจ ซึ่งเป็นการปล่อยกู้ผ่านธนาคารพาณิชย์ให้ธุรกิจที่มีพนักงาน 10,000 รายระยะเวลาชำระคืน 4 ปี รวมทั้งเงินกู้แก่ธุรกิจเอสเอ็มอี นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะซื้อพันธบัตรทั้งในระดับลงทุนและจั๊งค์บอนด์
นายสตีเว่น มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ซีเอ็นบีซีว่า คาดว่าจะธุรกิจจะกลับมาเปิดดำเนินการในเดือนพฤษภาคม รวมทั้งกระทรวงการคลังจะทำทุกทางที่จำเป็นเพื่อช่วยเหลือบริษัทอเมริกันและชาวอเมริกันให้กลับมาเปิดบริการอีกและให้ความช่วยเหลือด้านสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ
กระทรวงแรงงานเผย การยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้นมีจำนวน 6.6 ล้านราย สูงกว่า5.25 ล้านราย ที่นักวิเคราะห์คาด ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI)เดือนมีนาคมลดลง 0.2% จากเดือนก่อนเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2015 ขณะที่กระทรวงพาณิชย์เผย สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนกุมภาพันธ์ลดลง 0.7% จากที่ลดลง 0.6% ในเดือนมกราคม
หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และสาธารณูปโภคต่างเพิ่มขึ้นมากกว่า 4%
หุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยหุ้นเจพีมอร์แกน เชส เพิ่มขึ้น 9.05% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ เพิ่มขึ้น 4.2% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ เพิ่มขึ้น 4.3% หุ้นซิตี้กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 7.14% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา เพิ่มขึ้น 6.15%
หุ้นวอลท์ดิสนีย์ เพิ่มขึ้น 3.46% หลังจากบริษัทรายงานว่า ยอดผู้ใช้บริการสตรีมมิ่ง ดิสนีย์พลัส มีผู้ใช้แบบจ่ายเงินมากกว่า 50 ล้านรายทั่วโลก
หุ้นกลุ่มพลังงานลดลง โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ลดลง 1.6% หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลงกว่า 9% แต่หุ้นเชฟรอน เพิ่มขึ้น 2.04% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ลดลง 6.17%
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการในวันศุกร์เนื่องในวันกู้ด ฟรายเดย์
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก จากมาตรการเยียวยาผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 เพิ่มเติมวงเงิน 2.3 ล้านล้านดอลลาร์ ของธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยกลุ่มเดินทางและสันทนาการเพิ่มขึ้นมากกว่า 4% ก่อนที่ตลาดจะปิดทำการในวันพรุ่งนี้เนื่องในวันอีสเตอร์
ธนาคารอังกฤษตกลงที่จะให้รัฐบาลกู้ชั่วคราว หากไม่สามารถออกพันธบัตรในตลาดเงินได้ ขณะที่ธนาคารพาณิชย์จากสวติเซอร์แลนด์ ยูบีเอสและ เครดิต สวิส ประกาศจะเลื่อนเงินปันผลส่วนหนึ่งของปี 2019ให้ผู้ถือหุ้นไปปลายปีนี้
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,842.66 จุด เพิ่มขึ้น 164.93 จุด,+2.90%
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 331.80 จุด เพิ่มขึ้น 5.13 จุด, +1.57 %
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,506.85 จุด เพิ่มขึ้น 64.10 จุด, +1.44%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,564.74 จุด เพิ่มขึ้น 231.85 จุด, +2.24%
หุ้นเร็ดโรว์ บริษัทรับสร้างบ้านในอังกฤษเพิ่มขึ้นเกือบ 10% หลังจากได้รับเงินช่วยเหลือจากโครงการเงินช่วยเหลือฉุกเฉินเพื่อบรรเทาผลกระทบจากการระบาดของไวรัสจากธนาคารกลาง
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคมลดลง 2.33 ดอลลาร์ หรือ 9.3% ปิดที่ 22.76ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายนลดลง 1.36 ดอลลาร์ หรือ 4.1% ปิดที่ 31.48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

