ดาวโจนส์ปิดบวกเกือบ 500 จุด ราคาน้ำมันดิบพุ่ง

HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกเกือบ 500 จุด แรงหนุนกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันดิบพุ่งแรงกว่า 20% ด้านตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้นยกแผง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 2 เมษายน 2563 ที่ 21,413.44 จุด เพิ่มขึ้น 469.93 จุด หรือ 2.24% ได้รับแรงหนุนจากการปรับขึ้นของกลุ่มพลังงานจากราคาน้ำมันดิบโลกที่พุ่งขึ้น กลบความกังวลต่อผลกระทบของการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่จะทำให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย และกลบข้อมูลการยื่นรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกที่เพิ่มขึ้นมาก

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,526.90 จุด เพิ่มขึ้น 56.40 จุด,+2.28%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ ที่ 7,487.31 จุด เพิ่มขึ้น 126.73 จุด, +1.72%

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นกว่า 20% โดยราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 5.01 ดอลลาร์ หรือ 24.7% ปิดที่ 25.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 5.20 ดอลลาร์ หรือ 21% ปิดที่ 29.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ประธานาธิบโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความว่าได้สนทนากับเจ้าชายโมฮัมหมัด บิน ซัลมาน รัชทายาทซาอุดิอาระเบีย ซึ่งได้เจรจากับประธานาธิบดีปูตินของรัสเซีย และแสดงความเห็นว่าทั้งสองฝ่ายจะตกลงกันได้ในการลดปกำลังการผลิตลง 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน

หุ้นเอ็กซอนโมบิลเพิ่มขึ้น 7.6% และหุ้นเชฟรอนเพิ่มขึ้น 10.9%แต่ยังต่ำกว่าราคาตั้งแต่ต้นปีถึง 40%

.วันศุกร์นี้ตามเวลาท้องถิ่นในสหรัฐ ประธานาธิบทรัมป์จะพบปะกับผู้บริหารของบริษัทน้ำมันชั้นนำที่ทำเนียบขาวเพื่อหารือให้ความช่วยเหลือธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ร่วงลง โดยมีผู้บริหารจากเชฟรอน จากเอ็นซอนโมบิล จากอ็อกซิเดนทัล ปิโตรเลียม จากคอนติเนนทัล รีซอร์สเซส เข้าร่วม

กระทรวงแรงงานเผยการยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 6.6 ล้านราย สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพิ่มขึ้น 2 เท่าจาก 3.28 ล้านรายในงวดก่อนหน้า และสูงกว่า 3.1 ล้านราย ที่นักวิเคราะห์ เป็นผลจากธุรกิจทั่วประเทศได้ปิดกิจการ หรือลดขนาดธุรกิจลง จากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาล เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้มีการปลดพนักงานจำนวนมาก

นอกจากนี้การขาดดุลการค้าเดือนกุมภาพันธ์ลดลงมาอยู่ที่ 39.9 พันล้านดอลลาร์จาก 45.5 พันล้านดอลลาร์ในเดือนมกราคม

หุ้นโบอิ้ง ลดงลง 5.6% หลังเสนอขายหุ้นให้กับพนักงานและยื่นข้อเสนอให้พนักงานสามารถเกษียณอายุงานก่อนกำหนด เพื่อรับมือกับผลกระทบต่อธุรกิจจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังข้อมูลการยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯที่สูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ขณะที่กลุ่มน้ำมันและก๊าซเพิ่มขึ้นมากว่า 5% จากรายงานว่า ซาอุดิอาระเบียกับรัสซียอาจจะตกลงกันได้ในเรื่องกำลังการผลิตซึ่งลดลงแรงกดดันราคาน้ำมันดิบโลก เป็นการยุติสงครามราคา

หุ้นเอเกอร์ บีพี หุ้นทีจีเอสโนเปก และหุ้นลันดินต่างเพิ่มขึ้นมากกว่า 9% ส่วนหุ้นจอห์นวู้ด กรุ๊ปในอังกฤษเพิ่มขึ้น 15%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,480.22 จุด เพิ่มขึ้น 25.65 จุด, +0.47%

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 312.08 จุด เพิ่มขึ้น 1.31 จุด,+0.42%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,220.96 จุด เพิ่มขึ้น 13.72 จุด, +0.33%,

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,570.82 จุด เพิ่มขึ้น 26.07 จุด, +0.27%