HoonSmart.com>> KTAM ตั้งรับบริหารกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น สภาพคล่องเพียงพอพร้อมรับสถานการณ์อนาคต ชูพอร์ตลงทุนตราสารหนี้คุณภาพ วอนนักลงทุนอย่าตื่นตระหนก แบงก์กรุงไทยพร้อมซัพพอร์ต ด้านอุตสาหกรรมฯ พบแรงขายลดลง หลังแบงก์ชาติออกมาตรการเสริมสภาพคล่อง สร้างความมั่นใจนักลงทุน
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย (KTAM) เปิดเผยถึงสถานการณ์กองทุนตราสารหนี้ในปัจจุบันว่า KTAM ได้เตรียมการและประเมินภาพรวมการลงทุนมาระยะหนึ่ง โดยบริหารจัดการกองทุนด้วยความระมัดระวังและมีสภาพคล่องเพียงพอสำหรับดูแลนักลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ภายใต้การบริหาร ทำให้ปัจจุบันสภาพคล่องของกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นของ KTAM ค่อนข้างดี อยู่ในสภาวะที่ค่อนข้างมั่นใจที่จะดำรงสภาพคล่องให้นักลงทุนได้ต่อเนื่อง
นอกจากนี้ KTAM ได้มีการหารือและประสานงานกับธนาคารกรุงไทย (KTB) อย่างต่อเนื่อง ซึ่งธนาคารกรุงไทยพร้อมที่จะรับมือกับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตเป็นอย่างดี ขณะเดียวกันตราสารหนี้ที่กองทุนของ KTAM ลงทุนอยู่นั้นเป็นตราสารหนี้ที่มีคุณภาพ
“สภาพคล่องของกองทุนมีมากพอที่จะรองรับการตระหนกของนักลงทุน และจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้ใช้มาตรการความช่วยเหลือจากภาครัฐ โดยเราพยายามอธิบายให้นักลงทุนเข้าใจและจากผลตอบรับถือว่าดี เพราะเราสื่อสารออกไปทุกช่องทางให้กับนักลงทุนของ KTAM เข้าใจว่าจากการไถ่ถอนที่ลดลงเราเชื่อว่านักลงทุนมีความเข้าใจและเลิกวิตกกังวลอย่างไม่มีเหตุผล คือเข้ามาสู่ในภาวะที่นักลงทุนรู้สึกนิ่งขึ้นแล้วหลังจากเราเห็นการไถ่ถอนที่ค่อนข้างจะกลับมาสู่สภาวะปกติตอนนี้”นางชวินดา กล่าว
สำหรับมาตรการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมา เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับตราสารหนี้นั้น ถือว่าเป็นมาตรการที่ดี หลังจากที่มาตรการออกมาแล้ว เห็นสภาพคล่องในอุตสาหกรรมดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่ราคาซื้อราคาขายพันธบัตรรัฐบาลแคบลง ซึ่งส่งผลให้กับอุตสาหกรรมโดยภาพรวมดีขึ้น เป็นประโยชน์กับกองทุนอย่างเห็นได้ชัด
นางชวินดา กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดตราสารหนี้ทั้งระบบในตอนนี้มีประมาณ 1.1 ล้านล้านบาท การไถ่ถอนในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเมินภาพคร่าวๆ 1% กว่าๆ ถือว่าไม่มาก ขณะเดียวกันตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ดอกเบี้ยนโยบายของรัฐบาลในแต่ละประเทศปรับลดลงอย่างเห็นได้ชัดและรุนแรง ซึ่งส่งผลดีกับตลาดตราสารหนี้ เพราะฉะนั้นผลตอบแทนในตราสารหนี้ ตั้งแต่ต้นปีมาถือว่าเป็นบวกมาโดยตลอด
นอกจากนี้ตั้งแต่ต้นปีการไหลเข้าของเงินในตลาดตราสารหนี้กับการไถ่ถอนปัจจุบันแทบจะไม่กระทบกัน AUM ของอุตสาหกรรมน่าจะไม่ได้กระทบ ในขณะที่การไถ่ถอนในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา หลายๆ บลจ.ก็จะมีอัตราการปรับตัวหรือการไถ่ถอนที่ลดลงมาโดยต่อเนื่อง
สำหรับ KTAM แม้ยังมีแรงขายของนักลงทุนออกมาบ้าง แต่ลดลงมาโดยต่อเนื่องหลังมาตรการภาครัฐออกมา ขณะเดียวกันมีแรงซื้อเข้ามาด้วยเช่นกัน นักลงทุนบางส่วนยังมองเห็นว่าเป็นโอกาส การลดลงของอัตราดอกเบี้ยทั้งโลกเป็นประโยชน์กับกองทุนตราสารหนี้ หากไม่ตระหนกหรือไม่ได้กลัวจนเกินข้อเท็จจริง จะเห็นว่ามาตรการต่างๆ ที่ทั่วโลกนำมาใช้เป็นคุณกับตลาดตราสารหนี้ค่อนข้างมาก
“โควิด 19 อาจทำให้นักลงทุนกังวลเรื่องสภาพคล่อง จึงมาไถ่ถอนทั้งที่คุณภาพตราสารที่ลงทุนยังมีคุณภาพที่ดี เพราะฉะนั้นมาตรการที่ ธปท. นำมาใช้ ถือเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดอะไรที่กระทบในอนาคตจากโควิด 19 เพราะฉะนั้นมาตรการนี้ไม่ได้ผิดปกติ จากมาตรการที่จากธนาคารกลางของทั่วโลกใช้ เพราะปัจจุบันธนาคารกลางของหลายประเทศได้มีการลดอัตราดอกเบี้ยและมีการนำนโยบายเฉพาะกิจเอามาใช้ในการดูแลตลาดตราสารทางการเงินค่อนข้างมาก เพราะฉะนั้นถือว่านโยบายของทางการหรือแบงก์ชาติที่นำมาใช้นั้นถือว่าเป็นการช่วยแบบ preventive ให้กับอุตสาหกรรม”นางชวินดา กล่าว
ส่วนกรณีที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมล่าสุดเมื่อวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น มีผลกระทบบ้างแต่ว่าการประกาศ GDP ที่อาจมีแนวโน้มลดลงถึง 5% สะท้อนให้เห็นถึงสถาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว การคาดการณ์ว่า ถึงแม้ กนง. จะไม่ประกาศลดดอกเบี้ยในครั้งนี้ ในอนาคตก็เชื่อว่าจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจและคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยปรับตัวลดลงต่อเนื่องซึ่งจะส่งผลในเชิงบวกให้กับตราสารหนี้
อย่างไรก็ตามหากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด19 ถูกประกาศเข้าสู่ระยะที่ 3 ทำให้คนส่วนใหญ่จะทำงานที่บ้านและนักลงทุนก็ต้องอยู่บ้าน จึงประเมินว่า ธุรกรรมทางการเงินอาจจะชะลอตัวลงและหลายๆ อย่างอาจเริ่มเข้าสู่ภาวะที่อาจจะนิ่งขึ้น
อ่านข่าว
ก.ล.ต.เชื่อมั่นมาตรการธปท.-ก.ล.ต.ช่วยเสริมสภาพคล่องกองทุนตราสารหนี้
บลจ.ทหารไทยยื้อไม่ไหวปิด 2 กองบอนด์ NAV วูบ “ทีเอ็มบี” ปล่อยกู้ผู้ถือหน่วย
