ดาวโจนส์ปิดทรุดกว่า 1,300 จุด น้ำมันดิบร่วงต่ำสุดรอบ 18 ปี

HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ร่วงกว่า 1,300 จุด ตลาดหุ้นยุโรปลงแรง 4-5% ราคาน้ำมันดิบร่วงต่ำสุดรอบ 18 ปี WTI ลงแตะ 20.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 17มีนาคม 2563 ที่ 19,898.92 จุด ร่วงลง 1,338.46 จุด หรือ 6.30% ฟื้นจากจุดต่ำสุดของวันแต่ ต่ำกว่าระดับจิตวิทยา 20,000 จุด เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2017 และส่งผลให้การปรับตัวขึ้นตั้งแต่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งหายไปหมด เพราะนักลงทุนยังคงกังวลผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากการระบาดของไวรัสโควิด-19

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,398.10 จุด ลดลง 131.09 จุด, -5.18%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,989.84 จุด ลดลง 344.94 จุด, -4.70%

ตลาดเปิดมาลดลงหนักจนต้องใช้ระบบ circuit breaker เพื่อพักการซื้อขายเป็นเวลา 15 นาที เมื่อกลับมาซื้อขายก็ผันผวนในแดนลบตลอดทั้งวัน เพราะนักลงทุนยังคงกังวลผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 และราคาน้ำมันดิบยังลดลงต่อเนื่อง โดยลดลง 24% ไปที่ระดับต่ำสุดรอบ 18 ปี

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนเมษายนลดลง 6.58 ดอลลาร์ หรือ24% ปิดที่ 20.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2545

ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคมลดลง3.85 ดอลลาร์ หรือประมาณ 13% ปิดที่ 24.88 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม 2546

หลังจากตลาดปิดวุฒิสภาได้ผ่านกฎหมายเยียวยาผลกระทบจากการระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19 ขณะที่นายลาร์รี่ คุดโลว์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจอาจจะรวมตลาดหุ้นในแพเกจให้ความช่วยเหลือ นอกจากนี้รัฐบาลได้ประกาศปิดชายแดนสหรัฐกับแคนาดา

ภาคธุรกิจได้ดำเนินการช่วยเหลือตัวเอง โดยผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ 3 รายได้ประกาศระงับการผลิตทุกโรงงาน ร้านอาหาร และบาร์ปิดชั่วคราว ส่วนธุรกิจขนาดใหญ่เช่น แมริออทได้ผลดพนักงานกว่าพันคน

ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะปิดห้องค้าและเริ่มซื้อขายด้วยระบบอิเล็กทรอกนิคส์วันที่ 23 มีนาคมนี้หลังมีเทรดเดอร์และพนักงานตรวจพบเชื้อไวรัสออกมาเป็นบวกซึ่งเป็นครั้งแรกที่ปิดห้องค้า

กระทรวงพาณิชย์เผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเดือนกุมภาพันธ์ลดลง 1.5% มาที่ระดับ 1.599 ล้านยูนิต จาก 1.624 ล้านยูนิตในเดือนมกราคม

หุ้นกลุ่มพลังงานลดลง โดยหุ้นเชฟรอน ลดลง 22.14% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ลดลง 10.02%

หุ้นโบอิ้ง ลดลง 17.9% จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสภาพคล่องของบริษัท เพราะผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบินจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่วนหุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ลดลง 30.3% หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ ลดลง 25.22% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ลดลง 26%

หุ้นกลุ่มรถยนต์ลดลง โดยหุ้นเจเนอรัล มอเตอร์ ลดลง 17.3% หุ้นฟอร์ด มอเตอร์ ลดลง 10.18% หุ้นเฟียต ไคร์สเลอร์ ออโตโมบิลส์ ลดลง 10.8%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ แม้รัฐบาลหลายประเทศได้ใช้มาตรการทางการเงินที่มีวงเงินหลายพันล้านดอลลาร์มาช่วยเหลือภาคธุรกิจและประชาชนเพื่อบรรเทาผลกระทบจากการระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19

เงินปอนด์ของอังกฤษอ่อนตัวลงที่ระดับต่ำกว่า 1.19 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนตุลาคม 2016 จากความกังวลสภาพคล่อง รัฐบาลอังกฤษประกาศมาตรการวงเงินราว 400 พันล้านดอลลาร์เพื่อเยียยาวภาคธุรกิจให้ผ่านพ้นวิกฤติ

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,080.58 จุด ลดลง 214.32 จุด,-4.05%

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 279.66 จุด ลดลง 11.41 จุด,-3.92%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,754.84 จุด ลดลง 236.93 จุด, -5.94%,

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,441.71 จุด ลดลง 497.39 จุด, -5.56%

หุ้นแอร์บัสลดลง 20% หลังมีรายงานข่าวว่าสหรัฐฯจะเก็บภาษีเครื่องบินในอัตรา 50% เริ่มตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคมนี้

อ่านข่าว

ราคาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งหนักต่ำสุดรอบ 18 ปี