HoonSmart.com>>สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง ฯแจ้งตลาดหลักทรัพย์ ปี 62 ขาดทุน 2,808.70 ล้านบาท รายได้รวมลดกว่า 4 หมื่นล้านบาท เฉพาะไตรมาส 4 ขาดทุนถึง 2,975 ล้านบาท ผลจากหยุดซ่อมบำรุงใหญ่ตามแผน แถมยังมีค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้นเป็น 31 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาส 3 ถูกโจมตีทางธุรกรรมทางอีเมล์ ทำให้ชำระเงินไปยังบัญชีที่ไม่ถูกต้อง กำลังเรียกคืนค่าเสียหาย
บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ในปี 2562 บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 2,808.70 ล้านบาท พลิกจากปี 2561 มีกำไรสุทธิ 2,263.25 ล้านบาท แย่ลงถึง 5,072 ล้านบาท โดยมีรายได้รวม 168,840 ล้านบาท ลดลง 40,320 ล้านบาทจากปีก่อนทำได้จำนวน 209,159 ล้านบาท
ผลดำเนินงานเฉพาะไตรมาส 4/2562 บริษัทขาดทุนสุทธิ 2,975 ล้านบาท เทียบกับไตรมาส 3 ขาดทุนสุทธิ 925 ล้านบาท แย่ลง 2,050 ล้านบาท ซึ่งมีการหยุดซ่อมบำรุงใหญ่ตามแผนงานในทุกหน่วยการผลิตตั้งแต่วันที่ 1พ.ย. 2562 ทำให้มีปริมาณน้ำมันดิบที่นำเข้ากลั่นลดลง เป็น 78 พันบาร์เรล/วัน จาก 145 พันบาร์เรล/วัน และมีค่าการกลั่นทางบัญชีลด เหลือ 1.85 ดอลลาร์
ขณะเดียวกันบริษัทยังมีค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้นเป็น 31 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาส 3 และไตรมาส 4/2561 โดยหลักเนื่องจากการถูกโจมตีทางธุรกรรมทางอีเมล์ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ทำให้มีการชำระเงินไปยังบัญชีที่ไม่ถูกต้อง หลังเกิดเหตุการณ์ บริษัทได้ดำเนินการร่วมกับผู้เชี่ยยวชาญทางด้านไอที ทั้งภายในและภายนอกทันที ในการตรวจสอบหาสาเหตุและได้เพิ่มระบบป้องกันภายในให้แข็งแกร่งมากขึ้น โดย SPRC ยังคงทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เชี่ยวชาญในการเรียกคืนค่าเสียหายดังกล่าว แต่ได้มีการรับรู้ค่าเสียหายในงบการเงินในไตรมาส 4/2562 ไว้ก่อน หากไม่รวมค่าเสียหายดังกล่าว ค่าใช้จ่ายในการบริหารในไตรมาส 4 ใกล้เคียงกับไตรมาส 3 และไตรมาส 4/2561
สำหรับในปี 2562 ค่าใช้จ่ายในการบริหารสูงขึ้น 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หากไม่รวมค่าเสียหายดังกล่าว
ด้านบริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) มองราคาหุ้น SPRC ในวันพรุ่งนี้ (24 ก.พ.) อาจถูกกดดันจากประเด็นข่าวถูกโจมตีทางธุรกรรมทางอีเมล์ ทำให้บริษัทชำระเงินไปยังบัญชีที่ไม่ถูกต้อง ส่งผลให้งบไตรมาส 4/62 ออกมาขาดทุนมากกว่าคาด
เบื้องต้นประเมินค่าใช้จ่ายดังกล่าวที่ราว 600 ล้านบาท คิดเป็น 0.15 บาท/หุ้น และรายการดังกล่าวเป็นค่าใช้จ่ายพิเศษครั้งเดียว ซึ่งปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างเรียกคืนความเสียหาย หากได้รับคืนมีโอกาสที่จะทยอยกลับรายการในอนาคตตามจำนวนเงินที่ได้รับ
บล.หยวนต้า คงมุมมองว่าผลประกอบการไตรมาส 4/62 เป็นจุดต่ำสุดแล้ว และคาดว่าแนวโน้มกำไรปกติไตรมาส 1/63 จะเริ่มฟื้นตัวเมื่อเทียบไตรมาสก่อนหน้าตามการฟื้นตัวของค่าการกลั่น และค่าใข้จ่ายที่ลดลง
“ก่อนหน้าเราแนะนำให้รอซื้อหุ้นกลุ่มโรงกลั่นหลังรายงานงบไตรมาส 4/62 ดังนั้น เราคงมุมมองเดิม พร้อมประเมินว่าหากพรุ่งนี้ราคาหุ้น SPRC ปรับตัวลงแรงกว่าปกติ เช่น ปรับตัวลงสู่ระดับ 8 บาทต้นๆ เมื่อเทียบราคาปิดวันศุกร์ที่ 8.85 บาท) จากประเด็นข่าวถูกโจมตีทางธุรกรรมอีเมล์ เป็นโอกาสซื้อ”บล.หยวนต้า ระบุ