ACG เด้งรับตลาดรถยนต์ พ.ค.โต 9% หนุนปีนี้สดใส ขยายสาขาตามเป้า

HoonSmart.com>>ACG มั่นใจยอดขายรถยนต์เดือน พ.ค.โต 9% สภาอุตฯ ยืนเป้าผลิตปีนี้ 2.1 ล้านคัน ส่งผลการดำเนินงานสดใส ขยายสาขาตามเป้า ปีนี้ 2 แห่ง  ครบ 15 สาขา ในปี 2565

นายภานุมาศ รังคกูลนุวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออโตคอร์ป โฮลดิ้ง ( ACG) ประกอบธุรกิจการถือหุ้นในบริษัทอื่น หรือโฮลดิ้ง ที่ประกอบธุรกิจจำหน่ายและให้บริการในอุตสาหกรรมรถยนต์ และธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่องอื่นๆ ปัจจุบันมี บริษัท ฮอนด้ามะลิวัลย์ เป็นบริษัทแกน ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายและศูนย์บริการรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของ ACG จะสดใสต่อเนื่อง และยังสามารถเดินหน้าได้ตามแผนที่วางไว้ โดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยยอดขายรถยนต์ภายในประเทศเดือนพ.ค. มีทั้งสิ้น 88,097 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 3.7% และเติบโต 2.4%จากเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา 2.4% รวม 5 เดือนที่ผ่านมา รถยนต์มียอดขาย 437,722 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 9.1% ทางส.อ.ท.ยังคงเป้าหมายยอดผลิตรถยนต์ทั้งหมด 2.1 ล้านคัน และยอดการส่งออกที่ 1.1 ล้านคัน

สาเหตุที่ทำให้ยอดขายภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจยังเติบโตดี  นโยบายภาครัฐให้การสนับสนุนเกษตรกร และผู้มีรายได้น้อย รวมถึงการลงทุนของภาครัฐและเอกชน นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศยังขยายตัวดี และมีการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่

ขณะที่ ACG มีจุดแข็ง เป็นดีลเลอร์รถยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า  แบรนด์ที่รู้จัก และชื่นชอบของผู้บริโภค ปัจจุบัน “ฮอนด้า” ยังมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ในตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รักษาตำแหน่งติดต่อกัน 3 ปีซ้อน (ปี 2558-2560) ด้วยส่วนแบ่ง 31.5%, 32.7% และ 32.20% ตามลำดับ

สำหรับการดำเนินงานในปี 2562 บริษัทคาดรายได้รวมเติบโตต่อเนื่อง จากไตรมาส 1 มีรายได้ประมาณ 800 ล้านบาท สาขาจำนวน 9 แห่ง และในครึ่งปีหลัง จะขยายสาขาอีก 2 แห่ง ในพื้นที่บริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออก สนับสนุนให้บริษัทฯ รักษาอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ระดับ 1.90%  จากปริมาณขายรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงรายได้จากการซ่อมบำรุง และค่านายหน้าเช่าซื้อให้กับบริษัทประกันภัย

นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนจะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นไอพีโอ ประมาณ 200 ล้านบาท และเงินสดที่ได้จากการดำเนินงานไปขยายสาขาอีก 15 แห่งให้ทั่วประเทศไทยภายในปี 2565

หุ้น ACG เข้าซื้อจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) วันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา ราคาไอพีโอ 1.44 บาท วันแรกขึ้นไปสูงสุด 1.70 บาท ก่อนปิดที่ 1.56  บาท บวก 0.12 บาทหรือ 8.33%  และวันที่ 2 ก.ค. ซื้อขายที่ 1.48 บาท บวก 0.04 บาทหรือ 2.78%   ณ เวลา 16.00 น.