TKN ลั่นโตมากรอโมเมนตัมกลับมา หลังปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่

HoonSmart.com>>”เถ้าแก่น้อยฯ”(TKN) มั่นใจผลงานปีนี้โตไม่น้อยกว่าปี 67 หลังปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่ มุ่ง Go To Market มากขึ้น จับมือพันธมิตรท้องถิ่น ส่งสินค้าใหม่เข้าสู่ตลาดในครึ่งปีหลัง เล็งเจาะตลาดยุโรปหวังทดแทนตลาดสหรัฐฯที่เจอผลกระทบภาษี”ทรัมป์” เตรียมเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ใหญ่ระดับประเทศในเดือนก.ย. หวังดันยอดขายโต ลั่นจะเติบโตมาก หากโมเมนตัมกลับมา

นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง (TKN) เปิดเผยว่า ผลงานปี 2568 คาดว่าจะเติบโตไม่น้อยกว่าปี 2567 จากการปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในหลายประเทศ ทั้งจีน, อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ซึ่งจะเป็นการวางรากฐานให้เติบโตต่อไปได้ในปี 2569 ในแง่ของต้นทุนจะเห็นการปรับตัวดีขึ้นในปลายปี 2568 ถึงปี 2569 และอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Margin) จะดีขึ้นด้วยจากการปรับตัวทั้งภายในและภายนอกองค์กร พร้อมเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์เบอร์ใหญ่ของประเทศในเดือน ก.ย. หวังดันยอดขายโต

“ตลาดต่างประเทศมีผลกระทบเยอะทั้งเรื่องของภาษี, อัตราแลกเปลี่ยน, คู่แข่ง รวมถึงต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น ครึ่งปีหลังจึงมีแนวทางการปรับกลยุทธ์ Go To Market โดยตลาดจีนจะปรับปรุงกลยุทธ์ และต้นทุนต่าง ๆ ให้ดีขึ้น อินโดนีเซีย เป็นตลาดสำคัญอันดับสอง จะเจาะตลาดให้มากขึ้นที่ทาง TKN ยังเข้าไม่ถึง และจะออกสินค้าใหม่ พร้อมโปรโมชั่น ทำมาร์เก็ตติ้งมากขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจอินโดนีเซียไม่ดี ต่างก็ได้รับผลกระทบกันหมด”

ตลาดจีนจะเน้นทำออนไลน์ให้มากขึ้น โดยเป็นรูมที่ TKN เข้าถึงได้น้อยมาก และออกสินค้าใหม่ ซึ่งน่าจะทำให้ยอดขายปิดบวกได้ในปีนี้

ตลาดมาเลเซีย ในช่วง 3 ปีมานี้เติบโตสูงมาก และ TKN ก็เป็นผู้นำตลาด คล้ายกับอินโดนีเซีย แต่ตอนนี้มีสินค้าจากเกาหลีส่งเข้ามาขาย ทำให้การแข่งขันสูงขึ้น ดังนั้น จึงมีสินค้าอบ และโรย น่าจะเป็น New S-Curve ตลาดมาเลเซียได้

สำหรับตลาดสหรัฐฯจะมีการขยายช่องทางใหม่ เพื่อลดผลกระทบภาษีสหรัฐฯ 19% แม้จะอยู่ในระดับที่น้อยกว่าที่เคยมองไว้ที่ 30-36% แต่ยังถือว่ามากอยู่ดี ซึ่งผลกระทบนี้อาจจะเป็นแค่ช่วงแรก ทำให้ต้องมีการปรับน้ำหนัก และราคาสินค้า อย่างไรก็ดี บริษัทมีแนวทางการหาตลาดอื่นมาชดเชย โดยมองไปที่ตลาดยุโรปให้มาทดแทน นำโดยอังกฤษเป็นหัวหอก เพราะมีการบริโภคสาหร่ายที่เติบโตสูง จะทำตลาดเหมือนกับสหรัฐฯ

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TKN กล่าวว่า ตอนนี้วัตถุดิบมีใช้ถึงกลางปี 2569 ถ้าสาหร่ายมีแนวโน้มถูกลง ทางบริษัทฯก็พร้อมที่จะเก็บสาหร่ายได้มากขึ้น เนื่องจากคาดว่าโกดังจะเสร็จในไตรมาส 1/2569 ทำให้เก็บสาหร่ายไว้ใช้ได้มากกว่า 1 ปี และราคาถูกลง ซึ่งจะลดความผันผวนต้นทุนวัตถุดิบได้อย่างน้อย 1 ปี

พร้อมกันนี้ตลาดต่างประเทศ บริษัทพร้อมจะหาพาร์ทเนอร์ท้องถิ่น (Local) ให้มากขึ้น เพื่อร่วมมือกันในการแข่งขันทางการตลาด

“ชัดเจนเราจะกลับมาเติบโตมาก หากโมเมนตัมกลับมา เพราะเรามีโมเดลธุรกิจรองรับไว้อยู่แล้ว”นายอิทธิพัทธ์กล่าว

———————————————————————————————————————————————————–