“บล.คิงส์ฟอร์ด”ประเมิน SET ฟื้นตัวจำกัด แนะ CPN-WHA

HoonSmart.com>>บล.คิงส์ฟอร์ดคาดแนวโน้มหุ้นวันนี้ ดัชนียังฟื้นตัวได้จำกัด รอประเมินสถานการณ์ในตะวันออกกลาง ราคาน้ำมันดิบขยับขึ้นต่อ ตลาดยังได้แรงหนุนเม็ดเงินกองทุนวายุภักษ์ แนวต้าน 1,460 – 1,470 จุด ส่วนแนวรับ 1,440 – 1,445 จุด กรณียืนได้ถือพอร์ตต่อ เสิร์ฟหุ้นเด่น CPN คาดกำไรครึ่งปีหลังเติบโต , WHA รับแรงหนุนจากการตั้งฐานการผลิตกลุ่ม EV

บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,440 – 1,445 จุด กรณียืนได้ถือพอร์ตต่อ โดยมีแนวต้าน 1,460 – 1,470 จุด ประเมินดัชนียังฟื้นตัวได้จำกัด ระหว่างรอประเมินสถานการณ์ในตะวันออกกลาง แต่ยังได้แรงหนุนเม็ดเงินจากกองทุนวายุภักษ์ แนะนำทยอยซื้อเมือดัชนีอ่อนตัว กลุ่มค้าปลีก CPALL,GLOBAL,DOHOME,HMPRO หุ้น CPF,TFG,STA เป็นกลุ่ม Defensive และค่าเงินบาทเริ่มอ่อนค่า กลุ่มเก็งกำไร KTB, BEM, KCG มีสัญญาณบวกทางเทคนิค

ส่วนประเด็นที่ต้องติดตามวันนี้ คือ การหารือระหว่าง กระทรวงคลังและธปท. ในประเด็นค่าเงินบาทแข็งค่าเร็ว รวมถึงโอกาสที่ปรับลดดอกเบี้ยในปีนี้

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.09%, S&P500 +0.01%, Nasdaq +0.08% ตลาดทรงตัว หลังอิหร่านโจมตีอิสราเอลด้วยขีปนาวุธกว่า 200 ลูกในวันอังคารที่ผ่านมา ขณะที่ ประธานาธิบดีไบเดนไม่สนับสนุนให้อิสราเอลโจมตีฐานที่ตั้งโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน และให้ปฏิบัติการแบบพอเหมาะ ส่งผลให้หุ้นกลุ่มพลังงาน +1.1% จากความไม่แน่นอนสถานการณ์ในตะวันออกกลาง

ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบพ.ย. เพิ่มขึ้น 0.27 ดอลลาร์/บาร์เรล อยู่ที่ 70.10 ดอลลาร์/ บาร์เรล, Brent ส่งมอบ ธ.ค. เพิ่มขึ้น 0.34 ดอลลาร์ อยู่ที่ 73.90 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความกังวลภาวะสงครามในตะวันออกกลาง ขณะที่ EIA รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 3.9 ล.บาร์เรล สวนทางคาดจะลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล ส่วนที่ประชุม JMMC ของโอเปกมีมติคงการลดกำลังการผลิตที่ 5.86 ล้านบาร์เรล/วัน

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจ ADP เผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐ ก.ย. เพิ่มขึ้น 143,000 สูงกว่าคาดที่ 128,000 ตำแหน่ง โดยค่ำวันนี้ติดตามตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และวันศุกร์ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ก.ย. คาด 144,000 และส.ค. 142,000 ตำแหน่ง และอัตราว่างงาน ก.ย. คาดทรงตัวที่ 4.2%

หุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ CPN (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 81.00 บาท) แนวโน้มผลประกอบการ 2H67 เติบโต YoY หนุนจากรายได้ศูนย์การค้าเดิมและสาขาที่เปิดใหม่ 2 แห่งในช่วง 1Q67 ประกอบกับธุรกิจโรงแรมที่ฟื้นตัวตามภาคการท่องเที่ยว

ส่วนธุรกิจอสังหาฯ ยังมี backlog ที่รอโอนอยู่ในช่วงครึ่งปีหลังต่อเนื่อง ด้านแผนการลงทุนวาง capex 1.5 หมื่นล้านบาท ในโครงการ central กระบี่ และรีโนเวทศูนย์การค้า Central ปิ่นเกล้า แจ้งวัฒนะ บางนา และเชียงใหม่แอร์พอร์ต คาดทยอยดำเนินการเสร็จในปี 68-69 ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตเฉลี่ย 10% ต่อปี อิง Consensus ตลาดคาดกำไรปี 67 ตลาดคาดกำไรอยู่ที่ 1.64 หมื่นล้านบาท +9%YoY และปี 68 อยู่ที่ 1.77 หมื่นล้านบาท +8%YoY

หุ้น WHA (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 6.30 บาท) สำหรับภาพการดำเนินงานกลุ่มนิคมฯในปี67-68 เราคาดว่าจะยังมีแรงหนุนจากการตั้งฐานการผลิตกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า (EV)/ การตั้ง Data Center รวมไปถึงการย้ายฐานการผลิตจากจีนมาไทย โดยในส่วนของ WHA เองวางเป้ารายได้รวม (รวมส่วนแบ่งกำไร) ราว 1.5 หมื่นล้านบาท/ EBITDA>50% และ เป้าขายที่ดินปีนี้ 2,500 ไร่(เพิ่มขึ้นจากเป้าเดิมที่ 2,275 ไร่) +18%YoY เน้นไปที่ที่ดินในไทย 2,300 ไร่ ส่วนที่เหลือ 200 ไร่เป็นที่ดินในเวียดนาม

ทั้งนี้ เบื้องต้น ทางฝ่ายวิเคราะห์ประเมินกำไรสุทธิของ WHA ปี67 และ 68 จะอยู่ที่ 4,645 ล้านบาท(+5%YoY) และ 5,943 ล้านบาท(+28%YoY)